รีวิวซีรีส์วาย 美しい彼 - Utusukushii Kare (เพราะรักเธอผู้งดงาม) พร่ำเพ้อไม่มีที่สิ้นสุด

Image

รีวิวซีรีส์วาย 美しい彼 - Utusukushii Kare (เพราะรักเธอผู้งดงาม) พร่ำเพ้อไม่มีที่สิ้นสุด

2021-12-24 15:01:31 Entertainment Review, Yusei 1732

เป็นเรื่องที่ดีที่ยุคนี้ BL (Yaoi, ซีรีส์วาย, หนังวาย ในที่นี้จะขอเรียก BL) เป็นกระแสที่นิยมในหมู่สาวๆ และทำให้วงการบันเทิงผลิตหนัง-ซีรีส์ BL ออกมาเยอะแยะมากมาย จริงอยู่ว่าสมัยก่อนนั้นเราจะหาอะไรที่เกี่ยวกับ BL ได้ ก็ต้องหาจากมังงะญี่ปุ่นเป็นส่วนใหญ่ อ่านไปฟินจิกหมอนไป แถมยุคนั้นหาซื้อก็ยาก อ่านก็ต้องอ่านแบบหลบๆ บ้าง จิ้นมากก็อาจโดนสังคมประณาม ต้องอยู่ในกลุ่มเฉพาะทาง คุยกันเอง ฟินกันเอง

ผ่านมา 20 กว่าปี สาววายในยุคนั้นเติบโต มีหน้าที่การงานทำ หลายๆ คน ผันมาเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสรรค์ผลงาน BL ในบ้านเรา เป็นเรื่องที่ดีนะ ที่ทุกวันนี้สาววายบ้านเราได้มีสื่อ BL เป็นของตัวเอง ให้ชาติอื่นได้มาติดตามบ้าง ได้ยินว่าฝั่งญี่ปุ่นก็ชอบ BL บ้านเราเยอะมาก คลั่งกันหนักมาก

แต่สำหรับเรายังวนเวียนอยู่ในตลาด BL ญี่ปุ่นเหมือนเดิม จากวันนั้นจนถึงวันนี้ สายเลือดความวายยังไหลเวียนอยู่ในตัวไม่เปลี่ยนแปลง ถึงแม้จะจืดจางไปตามช่วงวัย แต่ถ้าได้รับการกระตุ้นเมื่อไหร่ ก็พร้อมจะสูบฉีดขึ้นมาอีกครั้งได้อย่างง่ายดาย

เกริ่นมาซะเยอะ วันนี้จะมาพูดถึงซีรีส์ BL จากฝั่งญี่ปุ่นเรี่องนึง เรื่องล่าสุดที่ทำเอาหัวใจเต้นหนักหน่วงไม่เป็นท่ามาตลอด 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา ทำไมถึง 2 อาทิตย์น่ะเหรอ ทั้งๆ ที่ซีรีส์นี้มามา 6 อาทิตย์แล้ว ในทีแรกยังไม่สปาร์กเท่านี้ ชีวิตยังดำเนินได้โดยไม่ต้องสมัคร VIP แต่ท้ายที่สุด ช่วงวัยที่ถึงแม้จะแก่ตัวลง อยู่ๆ ก็ถูกทำให้กระปรี้กระเปร่า และกลายเป็นคลั่งหวีดอย่างลืมตัวจนโงหัวไม่ขึ้นจนบัดนี้

เรื่องที่ว่านี้ก็คือ Utusukushii Kare (美しい彼 - เพราะรักเธอผู้งดงาม - My Beautiful Man) ที่เพิ่งจบไปเมื่อวานนี้ (23/12/2021) เป็นซีรีส์ BL ที่ดีงามตั้งแต่ต้นจนจบ แม้จบแล้วก็ยังมีกลิ่นอายครุกรุ่นอยู่ในใจหมุนวนไปไม่รู้จะจางหายเมื่อไหร่

เรื่องนี้สร้างมาจากนิยายในชื่อเรื่องเดียวกันทั้งภาษาไทย และภาษาญี่ปุ่น ในที่นี้จะขอเล่าเรื่องย่อในฉบับซีรีส์นะ (ซึ่งก็คล้ายกันแหละ มีความเคารพต้นฉบับมาก แต่มีการดัดแปลงเพื่อให้ดำเนินเรื่องได้กระชับขึ้นอยู่บ้าง) เรื่องมันเริ่มมาจาก ฮิระ (Hagiwara Riku) เด็กหนุ่ม ม.ปลายผู้มืดมน ที่กำลังจะขึ้นชั้น ม.6 ต้องย้ายห้องเรียนใหม่ ด้วยความที่ตัวเองเป็นเพียงคนโปร่งแสงในสังคม มีสถานะอยู่ตรงฐานปิระมิด แถมยังมีอาการพูดติดอ่าง เลยทำให้ไม่สามารถเอ่ยคำที่ต้องการจะเอ่ยได้ ทำให้เพื่อนร่วมชั้นล้อเลียน ในขณะนั้นก็ได้พบกับ คิโยอิ เพื่อนร่วมชั้นคนใหม่ ที่ทำให้ชีวิตของฮิระเปลี่ยนไป

ฮิระ จ้องมอง คิโยอิ แบบไม่ลดละสายตาราวกับถูกสะกดให้ต้องมนต์ไปกับความงดงามของคิโยอิ และฮิระก็รู้สึกเหมือนกับว่าตกหลุมรักคนๆ นี้เข้าให้แล้ว แต่ด้วยความที่ประเมินตัวเองเป็นเพียงแค่คนในฐานปิระมิด เมื่อเทียบกับคิโยอิ ที่ทั้งดูดีมีเสน่ห์ และยังป๊อบปูล่าที่สุดในชั้นเรียน ยิ่งทำให้ฮิระไม่กล้าที่จะเอาตัวเองไปเทียบเคียงกับชนชั้นนั้นได้ และเรื่องราวของคนสองชนชั้นในห้องเรียนก็ได้ดำเนินขึ้น ท่ามกลางบรรยากาศที่มืดมนของสังคม สังคมที่เต็มไปด้วยการกดขี่ และการกลั่นแกล้ง แต่กลับเป็นสิ่งที่ฮิระพึงพอใจที่จะเป็นแบบนั้น และเพราะอะไรที่ทำให้ฮิระต้องยอม อะไรที่ทำให้คิโยอิถึงได้ดูสูงส่งขนาดนั้น ตัวซีรีส์ทำออกมาให้ดี สื่อออกมาได้เห็นถึงความเจ็บปวด ความหม่นหมอง และความรักที่ยากต่อการลงเอยออกมาได้อย่างงดงาม น่าติดตาตรึงใจตั้งแต่ต้นจนจบได้อย่างสมบูรณ์แบบ

 

ความงดงามจากชื่อเรื่อง ทำให้ภาพบรรยากาศของซีรีส์ ดูออกมาสมกับชื่อทั้งตัวละครและวิวทิวทัศน์ทั้งหมด ทั้งที่บางจุดของเนื้อเรื่องดูอึดอัดจากสังคมของการแบ่งชนชั้น แต่กลับมีภาพศิลป์ที่ทำออกมาได้สวยงาม โลกมันไม่ได้สดใส แต่ชีวิตที่ดำเนินอยู่ตอนนั้นเขาพึงพอใจ มันเลยเป็นสิ่งที่ลงตัว ตัวซีรีส์ดำเนินเรื่องแบบ Coming-of-Age ในช่วงวัยที่พูดถึงฮิระด้วยสถานะที่ถูกลดทอนคุณค่า โทนสีที่ออกมาก็ดูหม่นหมองไปตามกัน แต่พอถึงวัยที่ผ่านไป โทนสีของเรื่องก็เปลี่ยนไปตามบรรยากาศ ถึงจะไม่ได้สังเกต แต่ก็ทำเอาอินไปกับภาพของเรื่องได้อย่างง่ายดายเลยทีเดียว การพัฒนาการของตัวละครถูกถ่ายทอดออกมาได้ตรงตามต้นฉบับ และเข้าใจได้จากการบรรยายของความรู้สึกของตัวละคร ที่แม้ไม่อ่านนิยายก็เข้าใจได้ (เพราะนี่ก็เพิ่งมาอ่านทีหลัง) เหตุผลของทุกการกระทำมีที่มาที่ไป ซึ่งอาจจะต้องดูไปให้ถึงจุดนั้นก่อน ดูไปให้จบทุกเนื้อเรื่อง ด้วยเวลาที่มีน้อยในแต่ละตอนจึงจำเป็นต้องรวบรัดเนื้อหา และพยายามใส่จุดเปลี่ยนในรายละเอียดเล็กๆ ของเรื่อง แล้วจะรู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ดำเนินมาถึงตรงนี้ได้ เพราะอะไร และนั่นก็เป็นความเจ็บปวดที่เข้าถึงได้จากภาพที่ออกมาอย่างไม่ต้องสงสัยเลย อินจนหัวใจมันเจ็บปวด บิดร้าวไปหมด

อีกสิ่งหนึ่งที่จะไม่อวยไมได้เลยก็คือ นักแสดง ก่อนหน้านี้เคยดูผลงานของ Hagiwara Riku (คนที่แสดงเป็นฮิระ) มาบ้างแล้ว ส่วนใหญ่เห็นเล่นเป็น Support Role ด้วยบทบาทที่หลากหลาย แต่เอาจริงๆ คือไม่ได้จดจำอะไรมากเท่าไหร่ น่าจะเพราะบทไม่ได้ส่งอะไรมาก ถามว่าเล่นดีมั้ย ก็ยังจำไม่ได้เลย ยอมรับว่าในทีแรกที่เห็นภาพเปิดของเรื่องนี้ แล้วเห็นริกุเล่นเป็นตัวเอกแล้วก็แบบ หืม? เอาหมอนี่มาเป็นพระเอกซีรีส์วายเนี่ยเหรอ มีแอบคิดแบบนี้อยู่เหมือนกันนะ (ขออภัย) แต่พอเริ่มดูตอนแรกเท่านั้นแหละ ต้องร้อง เฮ้ย! ในใจเบาๆ เล่นได้นี่หว่า เนียนอยู่นี่หว่า ทำเอาอยากกลับไปดูเรื่องที่เคยเห็นริกุเล่นมาก่อนหน้านี้เลย และที่ขาดไม่ได้ Yagi Yusei ตัวเอก (นายเอก) อีกคนที่ตอนนี้คลั่งไคล้คนนี้มาก มากจนจะขาดใจอยู่แล้วตอนนี้

Yagi Yusei รับบทเป็น คิโยอิ ผู้สูงส่งอยู่บนยอดปิระมิดที่ไกลเกินฮิระจะไขว่คว้าถึง มารับบทนำเป็นครั้งแรกในวัย 24 ปี แถมยังเป็นบทบาทของซีรีส์ BL อีกต่างหาก (แอบสงสัย LDH ชอบส่งเด็กในสังกัดตัวเองมาเล่นซีรีส์วายเหรอ? ปีที่แล้วก็มี Keita Machida) ซึ่งก็ไม่น่าเชื่อว่า ยูเซ จะแสดงออกมาได้ดีมาก ดีเกินไป ดีจนไม่น่าเชื่อว่านี่คือนักร้อง นักร้องที่ได้ลองมารับบทนักแสดงนำเป็นครั้งแรก คือชื่นชมนักแสดงญี่ปุ่นหลายๆ คนที่แสดงเก่งกันตั้งแต่ครั้งแรกกันเยอะอยู่นะ เห็นหลายคนได้ลองมาแสดงหนัง-ละคร แล้วปัง ได้เกิดกันหลายคนก็เยอะ แต่กับยูเซคือแบบ แก BL อะ BL ยังคิดอยู่เลย ต้องอินขนาดไหนถึงได้แสดงออกทางสายตาออกมาได้ชัดเจน ราวกับว่าตัวเองเป็นคิโยอิจริงๆ ได้ขนาดนั้น ความดีงามของยูเซคือการแสดงออกอารมณ์ทุกอย่างผ่านทางแววตา สีหน้าได้อย่างชัดเจน และด้วยความที่ตัวเองเป็นเหมือนกึ่งไอดอลอยู่แล้ว และได้บทแบบนี้อีก ความแข็งแรงก็เลยเป็นเรื่องง่าย แต่สีหน้าอะสีหน้า มันทำเอาฉันหลงจนโงหัวไม่ขึ้นเลยอะตอนนี้ นอกจากจะหลงคิโยอิ เหมือนตัวเองเป็นฮิระแล้ว ก็ยังหลงยูเซประหนึ่งเป็นลูกหลานเหลนโหลนที่ต้องคอยซัพพอร์ต ดูแลไปจวบจนฟ้าดินสลายอะ ฉันอยากเป็นแสงไฟที่สาดส่องยูเซไปจนชั่วนิรันดร์ อะไรแบบนั้นเลย

ยูเซเป็นนักร้องนำของวง Fantastics From Exile Tribe ยอมรับว่าไม่เคยฟังเพลงของยูเซมาก่อน (ถึงแม้จะฟังเพลง Exile มาบ้าง) แต่ตอนนี้ฉันกลับกำลังวิ่งไล่ตามอดีตของยูเซทั้งหมด เพื่อจะมายืนอยู่ให้ใกล้เคียงกับปัจจุบันของยูเซ ต้องขออนุญาตเหล่าแฟน Fantastics มา ณ ทีนี้ ที่เราเพิ่งจะมาเปิดประตูเข้าสู่บ้านของยูเซเอาตอนนี้ แต่ก็พร้อมจะซัพพอร์ตเต็มที่เลยจ้า

ในส่วนของนักแสดงสมทบบทอื่นๆ อย่างโคยามะ (Takano Akira) ที่มาเป็นอีกหนึ่งตัวละครสร้างความซับซ้อนให้ความสัมพันธ์ มาสั้นๆ แต่ก็ดาเมจแรงอยู่เหมือนกัน กับบทบาทที่แสดงออกทางสีหน้า ท่าทางได้ราวกับว่าเจ็บปวดอยู่จริงๆ รวมไปถึงบทสมทบอื่นๆ ที่ถึงแม้จะมาแค่ไม่กี่วินาที แต่มีผลกับเนื้อเรื่องหลักแบบที่ทำให้ตัวละครหันเหได้เลยทีเดียว นอกจากการแสดงในจอของตัวละครหลักทั้ง 2 (ริกุ และยูเซ) ได้เห็นบทสัมภาษณ์ของสองคนนี้ ก็เห็นว่านอกจอ เคมีเข้ากันมาก ในส่วนของยูเซก็บอกว่า การได้เจอกับริกุ เหมือนได้เจอตัวเองอีกคนนึง เพราะมีอะไรที่คล้ายๆ กัน เป็นเหมือนๆ กันหลายอย่าง เลยทำให้เข้ากันได้ ริกุเองก็เช่นกันทั้งๆที่อยู่กันคนละโลก แต่ก็รู้สึกเหมือนมีอะไรหลายๆอย่างคล้ายกัน ปกติจะไม่ค่อยจะจิ้นอะไรนอกจอ เพราะเข้าใจว่ามันเป็นงานการแสดง การเซอร์วิสบางทีก็ถือว่าเป็นงาน แต่พอสองคนนี้พูดมาแบบนี้ แถมยังมีภาพเบื้องหลังที่ดูสนิทกันเหมือนรู้จักกันมานานก็อดรู้สึกว่า "เฮ้ย น่ารักจังวะ อิอิ" ไม่ได้เลยทีเดียว

เขียนยาวแบบที่ไม่ได้เขียนอะไรแบบนี้มานานมากแล้ว พรั่งพรูทุกความรู้สึกที่มี แต่เขียนเท่าไหร่ก็บรรยายได้ไม่หมด ทั้งความดีงามของเรื่อง ความเพอร์เฟกของนักแสดง และความหวีดที่ไม่ลดละ จนคิดว่า วันนึงถ้ากลับมาอ่านบทความนี้ของตัวเอง จะยังรู้สึกแบบนี้อยู่ไหมนะ กลัวจะจำไม่ได้เลยเขียนไว้ซักหน่อยแล้วกัน

สุดท้าย ถ้าใครที่เป็นสาววาย (หนุ่มวายก็ได้อยู่นะ) หรืออยากเป็นสาววาย หรือกำลังลังเลว่าจะดูซีรีส์วายเรื่องไหนดี เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่ไม่ควรพลาด เอาจริง ไม่รู้ว่าพออวยเยอะมากขนาดนี้ แล้วเกิดไปดูจริงไม่เป็นแบบที่คิดไว้จะผิดหวังไหมนะ แต่ส่วนตัวคือ ตอนดู Ep.1 คือยังแค่สะกิดใจนิดหน่อย แล้ว Ep.2 ติด VIP เลยไม่ได้ดูต่อ จนผ่านมา 3 อาทิตย์ ลองกลับเข้าไปใน WeTV อีกที ก็มีถึง ep.4 แล้ว เลยได้ดูยาวๆ พอได้ดู Ep.2 Ep.3 เท่านั้นแหละ หัวใจสั่นคลอนไม่เป็นท่า ทั้งๆที่กำลังยืนตระหง่าอยู่ ก็กลับล้มลง ถูกดูดกลืนให้กลายเป็นเนื้อเดียวกับปิระมิดของฮิระไปเรียบร้อย ฉันเลยต้องเป็น VIP WeTV อีกครั้ง (ล่าสุดคือตอน Cherry Magic) และนั่นแหละ ในระหว่างที่ดู ep.4 ep.5 หัวใจมันก็บิดเบี้ยวไปหมด กลายเป็นอะไรไปแล้วก็ไม่รู้ นั่งดูตอนเก่าวนไป 7-8 รอบแบบไม่ข้าม ดูจนจำได้ว่าต่อไปคิโยอิจะทำหน้ายังไง นั่งตัดคลิป แคปภาพ โพสต์ทุกอย่างในทุกช่องทางเหมือนคนบ้า จากที่ไม่เคยคิดจะเล่น tiktok ก็เริ่มเล่นเพียงเพื่อจะโพสต์คลิปของซีรีส์เรื่องนี้ และเพื่อติดตามทุกช่องทางของซีรีส์เรื่องนี้ รวมไปถึงยูเซ อยากจะเขกหัวตัวเองแล้วบอก Baka Mitai นะมึงน่ะ แล้วก็ต้องยอมรับตัวเองประหนึ่งว่าเป็นฮิระไปด้วยอีกคน เพ้อมากจริงๆ

สุดท้ายอีกครั้ง ตอนนี้ทำคลิปไว้ 2 อัน https://youtu.be/QwfXRmbG1W4 กับ https://www.youtube.com/watch?v=CsH9TlASabU คาดว่าเดี๋ยวจะทำเพิ่มอีกเรื่อยๆ เฮ้อ ตั้งแต่ดูมาก็มีความรู้สึกอึดอัดอยากรู้ตอนจบ แต่พอจบก็ใจหายอยากดูต่ออีกเรื่อยๆ เหมือนเสพติด ได้โปรดทำซีซั่น 2 ด้วยเถิดดด Season 2 pleaseeeeeee

Comments

© Masoul's BLOG. All Rights Reserved. Designed by HTML Codex