FAKE VALENTINE

Image

FAKE VALENTINE

2009-02-13 20:05:40

article-fic

เทศกาลแห่งความรักงั้นเหรอ? มันฟังดูก็น่าขันไม่น้อยสำหรับชายร่างเล็กผู้มีดีกรีเป็นถึงนักร้องนำวงกาเซตโตะคนนี้ กี่ปีๆผ่านไปเขาก็ไม่เห็นจะรู้สึกตื่นเต้นไปกับมันซักเท่าไหร่เลย แม้ว่ามันจะได้กลายเป็นวันหยุดประจำชาติของวงเขาไปแล้วก็ตาม แต่เขาก็นึกไม่ออกว่าจะใช้วันหยุดนั้นไปกับการเดทที่ไหนกับใครอย่างไร...

เขาเหลือบสายตาไปมองเห็นปฏิทินแขวนบนผนัง ย้ำเตือนว่ามันเหลือเวลาอีกแค่สามวันเท่านั้นเอง ที่ทุกคนจะต้องไปทำหวานซึ้งร่ายอารมณ์โรแมนติกกับคนรักกันอย่างถ้วนหน้า แล้วเขาก็จะต้องทนอยู่เดียวดายราวกับกระพรุนข้างถนนที่ไม่มีใครเหลียวแล ไม่ยอมหรอกทั้งที่เขาเป็นถึงนักร้องผู้โฉมงามและโด่งดังแต่กลับไม่มีคนรักเนี่ยนะ มันฟังดูน่าหดหู่เกินไปหน่อยแล้ว!...

รุกิ นั่นเป็นชื่อของเขา และตอนนี้เขาก็คิดอะไรออกบางอย่าง ในขณะที่เพื่อนร่วมวงกำลังเตรียมตัวเพื่อจะซ้อมดนตรีสำหรับวันนี้ สายตาแห่งความเจ้าเล่ห์และรอยยิ้มที่เคลืองแฝงไปด้วยเลศนัยผุดขึ้นท่ามกลางความเงียบงัน

ความสนุกของเขามันกำลังจะเริ่มต้นนับจากนี้แล้ว....

สองวันต่อมาที่สตูดิโอ...

"มองไร?"เพื่อนร่วมวงเจ้าของตำแหน่งมือกีต้าร์ เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา เมื่อถูกดวงตาหวานจากคนร่างเล็กจดจ้องเสียจนขนลุกซู่
"เปล่าหรอก ฉันก็แค่คิดว่า..."รุกิ ผู้ถูกถามว่ากลับ ใบหน้ายังคงยิ้มหวานหยาดเยิ้มราวกับคนมีความรัก
"คิดว่าอะไร??"อาโออิขมวดคิ้ว สายตามองเพื่อนร่วมวงผู้นี้อย่างไม่ค่อยไว้ใจนัก
"นายเนี่ย ก็น่าสนใจดีเหมือนกันนะ"
"หือ?? มาไม้ไหนเนี่ย"
"จริงๆแล้ว ฉันน่ะ..."รุกิก้มหน้าลงพร้อมรอยยิ้มที่ดูเขินอาย
"อะไรเล่า?"
"อาโออิ...พรุ่งนี้นายก็รู้ว่ามันเป็นวันอะไร ฉันอยากเจอนายแบบสองต่อสอง พรุ่งนี้หกโมงเย็น ที่สวนสาธารณะ SOS ฉันจะรออยู่ที่นั่น แล้วอย่าบอกเรื่องนี้กับใครนะ"พูดจบเสร็จสรรพ ร่างเล็กไม่รอฟังคำตอบ เขาเดินเอี้ยวตัวเลี้ยวกลับเดินฉับแล้วจากไปอย่างไม่รีรอ แน่นอนว่าวิธีนี้ทำให้อาโออิไม่สามารถปฏิเสธเขาได้อย่างแน่นอน

ห่างออกไปอีกสามเมตร หลังฉากกั้นของสตูดิโอ...

"เรย์ตะ..."
"หือ?? เฮือก!"น้ำเสียงนั้นมันทำให้เจ้าของชื่อถึงกับสะดุ้งเลยทีเดียว
"ทำไมต้องตกใจขนาดนั้นด้วยเล่า ฉันมันน่ากลัวมากรึไง"รุกิว่า ใบหน้าขมวดคิ้วน้อยๆให้พอดูเกี่ยงงอนแบบน่ารัก (?)
"เอ่อ เปล่า ไม่น่ากลัวหรอก นายมันน่ารักจะตาย"น้ำเสียงนี้ประชดประชันไม่น้อย แต่ไอ้ร่างเล็กกลับกระโจนเข้ามาคล้องแขนชายหน้าคมผู้นี้อย่างไม่ทันตั้งตัว

"เย้ยยย!!"เรย์ตะสะดุ้งอีกครั้งที่ถูกรวบรัดแบบกระทันหัน
"เรย์...นายก็รู้พรุ่งนี้มันวันอะไร ฉันอยากอยู่กับนายสองต่อสอง ฉันมีอะไรจะบอกนาย หนึ่งทุ่มที่ร้าน FEE ฉันจะรออยู่ที่นั่นนะ"รุกิพูดรัวแบบเดิม
"อะ..อะไรนะ?"เรย์ตะงุนงง แขนข้างหนึ่งที่ถูกโอบรัดมันแนบชิดอยู่กับรุกิก็จริง แต่ร่างกายมันเอนเอียงถอยห่างไปโดยอัตโนมัติ
"อย่าบอกเรื่องนี้กับใครนะ...ฉันจะรอนะ"ว่าจบพลางปล่อยมือนั้นออก แล้วลุกขึ้นเดินหนีไปทันที

หลังจากที่เดินผ่านพ้นทั้งอาโออิและเรย์ตะมาแล้ว เจ้าของใบหน้าหวานที่ดัดแปลงให้มันดูน่ารักน่าชังเมื่อครู่กำลังอดกลั้นกับอะไรบางอย่างที่รู้สึกว่ามันกำลังจะระเบิดออกมา บทบาทที่แสดงออกไปเมื่อครู่กำลังจะทำให้เขาเป็นบ้า ทันใดเขารีบวิ่งออกไปนอกประตูทันที

"วะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!!!!!!!!"เขาระเบิดหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่งเมื่อนึกไปถึงใบหน้าของเพื่อนร่วมวงทั้งสองที่ได้เห็นเมื่อครู่ พลางคิดว่าพวกนั้นต้องตกหลุมพลางเขาอย่างแน่นอน นี่ไหนจะเหลือไคกับอุรุฮะอีก อดรนทนรอเห็นใบหน้าเหวอของอีกสองคนไม่ไหวแล้ว คิดพลางกลับเข้าสตูดิโออีกครั้งเพื่อดำเนินแผนการต่อ...แต่ทว่า...

"ทำบ้าอะไรของนาย?"
"เย้ยยย!! ไค"รุกิสะดุ้งเหวอถึงกับผงะ ในขณะที่กำลังหันหลังไปเปิดประตู แต่กลับเจอร่างของไคเดินเปิดประตูออกมายืนท้าวสะเอวอยู่หน้าห้องด้วยใบหน้าดุดันใช่เล่น
"ฉันเห็นตั้งแต่นายทำท่าแปลกๆเดินเข้าไปหาอาโออิละ...เลยตามไปดูที่เรย์ตะ นี่นายทำบ้าอะไรเนี่ย?"ไคว่าด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง
"เบาๆๆๆๆสิไค เอาน่าๆๆ มันไม่มีไรหรอก เอาเป็นว่า มันไม่เลวร้ายอะไรหรอกน่า"รุกิดึงร่างไคเข้ามาใกล้ พลางยกมือขึ้นมาป้องปาก สายตาพลางเข้าไปในห้องอย่างระแวดระวัง ก่อนจะใช้เท้ายันประตูให้ปิดลงอีกครั้ง
"ไม่เลวร้าย แต่นายกำลังจะกลั่นแกล้งสองคนนั่นใช่มั้ย?"ไคยังทำเสียงดุไม่เลิก
"ที่จริงก็กะจะแกล้งหมดนั่นแหละ แต่นายดันรู้ซะก่อน แย่เลย"
"รุกิ!!"
"อ่ะ จ้ะๆๆ กลัวแล้วจ้ะ...ว่าแต่ อุรุฮะอยู่ไหนอ่ะ"
"ไปเข้าห้องน้ำ"
"อ้อ โอเค ทางสะดวก"รุกิเริ่มยิ้มเจ้าเล่ห์ขึ้นมาอีกครั้ง
"นี่นาย อย่าบอกนะ..."
"คึคึคึคึ...เอาน่าไค นายเก็บเรื่องนี้ไว้แล้วรอดูปฏิกิริยาเจ้าพวกนี้กับฉันดีกว่า คึคึคึ พรุ่งนี้ฉันอนุญาตให้นายตามไปดูแล้วแอบหัวเราะได้ทุกที่เลย คึคึ"รุกิยกมุมปากขึ้นยิ้ม เบิกตาโพลงพร้อมทำตาถลนราวกับคนบ้าโรคจิต
"เฮ้อ..."

ร่างเล็กเดินจ้ำอ้าวออกไปในที่ห่างไกลอีกเพียงนิด บรรยากาศรอบข้างดูเงียบงันเพราะผู้คนกำลังทำงานกันอยู่ เปิดทางสะดวกให้แก่เขาอย่างไม่ต้องระแวดระวังอะไรมากมาย ภายในห้องน้ำที่เงียบสนิทมีเพียงเสียงน้ำไหลจากก๊อกน้ำที่ถูกเปิดโดยใครคนหนึ่งเท่านั้น

"อุรุฮะ..."น้ำเสียงนุ่มลึก กับแววตาอันอ่อนโยนจดจ้องมองไปที่ร่างสูงที่กำลังยืนล้างมืออยู่ที่อ่างล้างหน้า รุกิผู้ไม่คิดว่าชาตินี้จะได้ทำเรื่องสลักสำคัญเช่นนี้อีกแล้ว เขากำลังเดินเข้าไปใกล้ร่างนั้นเรื่อยๆ เรื่อยๆ...และจนกระทั่ง...

หมั่บ!!

เพราะในตอนนี้มันปลอดผู้คน ในห้องน้ำแห่งนี้มีเพียงเขากับอุรุฮะ มันยิ่งเหมาะกับการสร้างฉากโรแมนติกจำลองขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย ร่างเล็กยื่นมือไปคว้าเอวบางของคนร่างสูงก่อนจะโถมตัวเข้าไปสวมกอดแล้วแนบแอบอิงซุกใบหน้าลงไปในอ้อมอกเรือนร่างใหญ่อย่างไม่พูดพร่ำทำเพลง ไม่ปล่อยโอกาสให้ร่างสูงตรงหน้าได้ขัดขืนใดๆ

ยังไงซะ...ในตอนนี้เกมของเขามันก็ฉุดรั้งไม่อยู่ซะแล้ว

"จริงๆแล้วฉันน่ะ..."เขาเกริ่นคำที่ทำให้มันฟังดูน่าลุ้น และคิดว่าอุรุฮะคงจะใจหายวาบไปแล้วกระมัง
"รุกิ..."ในที่สุด เสียงตอบรับจากฝ่ายตรงข้ามก็ตอบกลับมา น้ำเสียงนั้นสั่นเครือพอๆกับเสียงของหัวใจที่เต้นระรัวไม่เป็นท่า รุกิแทบอยากระเบิดหัวเราะออกมาดังๆเสียเหลือเกิน
"ฉันมีอะไรอยากจะบอกนาย พรุ่งนี้สองทุ่มที่ริมแม่น้ำ KOO ฉันจะรอนายอยู่ที่นั่นนะ"มาไม้เดิม ก่อนจะยอมปล่อยวงแขนตัวเองออกจากแผ่นอกคนร่างใหญ่ให้เป็นอิสระ ใบหน้าและแววตาที่อ่อนหวานนี้ เขาไม่คิดเลยว่าตัวเองจะทำมันออกมาได้ จดจ้องมองกลับไปที่เพื่อนร่างสูงอย่างพินิจพิเคราะห์ ทำไมอุรุฮะถึงได้ดูประหม่ากว่าสองคนที่ผ่านมา นี่เขาคงเล่นละครได้เนียนเป็นบ้าเลยสินะ
"ฉัน..."อุรุฮะอ้ำอึ้งด้วยเพราะไม่แน่ใจว่ารุกิมาไม้ไหนหรือกำลังตื่นเต้นในสิ่งที่ได้รับอยู่ก็ไม่รู้
"อย่าบอกใครนะ ฉันอยากให้เรารู้กันแค่สองคน"ไม่วายยังเสริมบทต่อท้าย ก่อนจะเดินหันหลังขวับออกจากห้องน้ำไปอย่างไม่รีรอฟังคำตอบกลับใดๆอีก

เสร็จสิ้นภารกิจแรก...

ทันทีทันใดที่รุกิเดินกลับเข้ามาในสตูดิโอ และนั่นก็เป็นเวลาที่ทุกคนจะเลิกกลับบ้านกันแล้ว เขานี่ช่างวางแผนอะไรได้เหมาะเจาะเสียจริง สายตาของเขาไม่แลมองใครเลยเพราะเขาคิดว่าทุกคนต้องแลมองมาที่เขา แน่นอน มันเป็นแบบนั้นจริงๆ ทั้งอาโออิ เรย์ตะ และอุรุฮะ ทุกคนใช้สายตาแห่งความประหลาดใจมองมาที่รุกิกันเป็นตาเดียวโดยไม่ได้นัดหมาย อีกทั้งยังไม่มีใครสังเกตกันเองเลย จะมีก็แต่ไคที่รู้เบื้องหลังความทะเล้นของรุกิครั้งนี้ และได้แต่มองไปที่เพื่อนร่วมวงทุกคนอย่างละเหี่ยใจ...พวกคุณโดนหลอกกันแล้วครับ...

และแล้ว...วันพรุ่งนี้ของเมื่อวานก็ดำเนินมาถึง และที่ใครๆก็รู้ดีว่ามันคือวันอะไร 14 กุมภาพันธ์ วันขายขนมครกแห่งชาติรึ? ก็คงไม่ใช่ กาเซตรู้กันดีว่ามันคือวันอะไรและพวกเขาก็ตั้งให้มันเป็นวันหยุดประจำชาติไปเรียบร้อยแล้วด้วยและมันก็เป็นกฏที่ดำเนินมาจนถึงทุกวันนี้ แต่ตอนนี้รุกิกำลังสำนึกได้ดีว่ามันคือวันหลอกลวงแห่งชาติ โดยไม่ต้องรอให้ถึง April Fool's day เขาเฝ้าตอดข้อความถึงทั้งอาโออิ เรย์ตะ และอุรุฮะตั้งแต่เช้าเพื่อย้ำเตือนถึงนัดหมายอันสำคัญที่กำลังจะดำเนินมาถึงในอีกไม่กี่ชั่วโมงนี้ และยังไม่ลืมที่จะโทรไปเชื้อเชิญไคให้เข้าร่วมการแสดงอันน่าตื่นตาตื่นใจนี้ด้วย โดยอนุญาตให้ยืนขำได้อยู่ไกลๆ ก่อนที่ละครจะจบลงแล้วออกมาหัวเราะเยาะเพื่อนร่วมวงด้วยกัน ซึ่งดูเหมือนว่าไคจะไม่เล่นด้วย...ซะงั้น

เวลาสิบเจ็ดนาฬิกาสี่สิบนาที ชายร่างเล็กกระทัดรัดรับกับใบหน้าอันน่ารักน่าเอ็นดูยืนอยู่ใจกลางสวนสวนสาธารณะ SOS ตามที่ได้นัดหมายเหยื่อรายแรกไว้ ในมือถือกล่องของขวัญชิ้นเล็กๆที่ตั้งใจเตรียมมาเป็นของปลอบใจหลังจากแผนลุล่วง แต่ก็ไม่อยากจะคิดสภาพหลังจากที่เปิดออกแล้วเลย...

"อ๊ะ...นายมาจริงๆด้วย"
"เอ่อ..."อาโออิที่ถูกทัก รีบเบือนหน้าหนีหันไปมองทางอื่น แม้รุกิจะแอบสังเกตเห็นถึงรอยจ้ำสีชมพูระเรื่อที่แก้มสองข้างของเพื่อนคนนั้นก็เถอะ แทบอยากจะหัวเราะให้ท้องคับท้องแข็ง ไม่อยากจะเชื่อฝีม้ายลายมือการแสดงของตัวเองเลย ถ้าหันไปเอาดีทางด้านภาพยนต์ ป่านนี้อาจจะดังคับฟ้าไปแล้วก็ได้...รุกิคิด
"ก็นายบอกว่าจะรอนี่หน่า ก็กลัวจะเก้อ"
"อ่อ ก็เลยมาเร็วกว่าที่นัดตั้งยี่สิบนาที ขอบใจนะ"รุกิยังสวมวิญญาณนักแสดงจำเป็น
"แล้ว...เอ่อ...มีอะไรกับฉันงั้นเหรอ?"อาโออิเบนสายตาขึ้นไปมองท้องฟ้าอย่างไร้จุดหมายเพียงเพราะไม่กล้าสบตาใบหน้าหวานของคนตัวน้อยนั้นตรงๆ
"เอ่อคือ...จริงๆแล้วฉันน่ะ..."รุกิพยายามทำน้ำเสียงให้ฟังดูอ่อนหวานและแข็งขืนเล็กน้อยให้พอดูเคอะเขิน แม้ใบหน้านั้นจะเหยเกไปบ้างเพราะอาโออิไม่ได้มองอยู่ แต่กระนั้นก็เถอะดูเหมือนอาโออิจะประหม่าไม่น้อยเลยนะเนี่ย

"ฉันชอบนายน่ะอาโออิ!!!"

FAKE VALENTINE 2

"ฉันชอบนายน่ะอาโออิ!!!"

ชิ้ง!!! สายตาที่แหงนมองท้องฟ้าเมื่อครู่หลุบต่ำกลับลงมาจดจ้องมองใบหน้าคู่สนทนาอย่างไม่ทันตั้งตัว ประโยคที่ได้ยินมาทำเอาอาโออิถึงกับผงะก้าวถอยหลัง แม้ว่าจะรู้สึกใจเต้นรัวไม่น้อยกับคำสารภาพรักที่แม้จะเตรียมใจไว้แล้วแต่ไม่คิดว่ามันจะจริง เพราะเป็นเพื่อนร่วมวงกันมานาน แต่ไม่คิดว่าสิ่งที่ได้ยินจากรุกิมันจะทำให้ใจเต้นไม่เป็นท่าขนาดนี้ อาโออิถึงกับทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ยืนหอบหายใจอย่างตั้งหลักไม่ทัน

"คือฉัน..."อาโออิเรียบเรียงคำพูดไม่ถูก ตกใจราวกับถูกสาวน้อยน่ารักมาสารภาพรัก แต่นี่มันเพื่อนร่วมวงหน้ายักษ์ อาโออิจะทำยังไงดี!!
"นายคิดยังไงกับฉันล่ะอาโออิ"ไอ้ตัวเล็กมันยังเล่นไม่เลิก
"อะ...เอ่อ...อันที่จริง...นายก็..."อาโออิเริ่มมีท่าทีเลิ่กลั่กราวกับคนไม่มั่นใจทั้งที่ปกติชอบคอยกลั่นแกล้งรุกิมั่งล่ะ ต่อล้อต่อเถียงมั่งล่ะ แต่ในสถานการณ์แบบนี้กลับดูเคอะเขินเสียจนรุกิแทบอยากขำ...แต่ยังพอกลั้นไว้ได้
"ก็อะไร?"
"ก็...ไม่ได้เลวร้ายหรอกนะ แต่ฉันไม่เคยคิดเลยว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาที่เราอยู่ด้วยกันแบบนี้จะทำให้นาย...เอ่อ..."อาโออิเริ่มไปไม่ถูกแล้วครับ
"แล้วตกลงนายคิดยังไงกับฉันล่ะอาโออิ"สายตาเว้าวอนของร่างเล็กส่งเป็นประกายระยิบระยับไปที่คนตรงหน้า ทำเอาอาโออิถึงกับเข่าอ่อน ยืนทรงตัวอยู่แทบไม่ไหวเมื่อรังสีของความน่ารักแผ่กระจายส่งตรงไปถึงยังหัวใจของอาโออิอย่างไม่ทันตั้งตัว
"คะ...คือ...ก็..."แทบอยากจะตอบรับกลับแต่มันก็ยังอยากวางฟอร์ม แต่ความน่ารักที่เกิดมาไม่เคยจะเห็นเลยซักครั้งของรุกิในวันนี้มันก็น่าลองเสี่ยงดูบ้างเหมือนกัน อาโออิแทบจะทนไม่ไหวแล้ว...เหมือนกัน...รุกิเองก็ทนไม่ไหวเหมือนกัน

"ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ"แล้วรุกิก็ระเบิดหัวเราะออกมาเสียอย่างนั้น
"หัวเราะอะไรวะ!!!!!"หมดมู้ด...พ่อหนุ่มร่างใหญ่ใบหน้าหล่อขึ้นเสียงด้วยความสะดุ้งในน้ำเสียงหัวเราะของเพื่อนร่างเล็กที่เคยคิดไปชั่ววูบว่าน่ารัก แต่ดูเหมือนตอนนี้จะหลุดจากภวังค์นั้นแล้ว
"ฉ...ฉันมีของจะให้นายด้วย อาโออิ"ถึงแม้จะกลับมาวางฟอร์มไม่ทันแล้วแต่ก็ขอเล่นละครจนกว่ามันจะจบตามแผนแล้วกัน รุกิยื่นกล่องของขวัญเล็กๆที่เตรียมมาด้วยให้กับอาโออิ แม้ใบหน้าอาโออิจะไม่ดูอิ่มเอมไปกับความสุขเล็กๆเมื่อครู่แล้ว แต่ก็ยังยอมรับของขวัญชิ้นนั้นไป ใบหน้าเริ่มเหยเกเล็กน้อยแต่ลึกๆก็ยังหวังว่าที่รุกิพูดมาเมื่อกี้เป็นความจริง

ผ่าง!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

[ไอ้หน้าโง่ โดนหลอกแล้วโว้ย]

ข้อความประกาศิตเด้งออกมาจากกล่องของขวัญมาจ่ออยู่ตรงหน้าผู้เปิดอย่างท้าทาย ความหวังครั้งสุดท้ายเลือนหายไปพร้อมกับความดุเดือดเข้ามาแทนที่...อาโออิเหยื่อรายแรกของเรากำลังจะพุ่งทะยานขึ้นสู่ความร้อนสูงสุดก่อนจะคิดปลิดวิญญาณชายร่างเล็กตรงหน้าอย่างไร้ความปราณี

"ไอ้รุกิ่!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!"

"ก๊ากกกกกกกกกกก...ฮะๆๆๆๆๆๆๆๆ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ ว่ะฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ กร๊ากกกกกกกกกก"

แต่แล้วเสียงหัวเราะประหลาดก็ดังแทรกเข้ามาขัดให้บรรยากาศที่มีฝ่ายตึงเครียดเพียงฝ่ายเดียวให้ทุเลา หมัดขวาอรหันต์ของอาโออิหยุดชะงักพร้อมๆกับรุกิที่กำลังจะจ้ำอ้าวหนี

"ไค..."รุกิเอ่ยชื่อเจ้าของเสียงหัวเราะนั้นเบาๆอย่างงุนงง ไหนว่าจะไม่เล่นด้วย แล้วไหงตอนนี้กำลังยืนแอบอยู่หลังต้นไม้ใกล้ๆ แถมยังหลุดเสียงหัวเราะอันน่าเกลียดน่ากลัวออกมาจนถูกจับได้อีก
"เอ่อ..."ผู้ถูกจับได้ยืนนิ่ง พลางทำทีจะเดินถอยหลังเพื่อกลับไปเข้าแอบหลังต้นไม้ตามเดิม
"ไม่ทันแล้วโว้ย!!!"ทั้งรุกิและอาโออิร้องขึ้นมาพร้อมกัน ทำเอาไคต้องเผยตัวออกมาอีกครั้ง
"นี่นายสองคน!! นายสองคนรุมหัวกันหลอกฉันใช่มั้ย!!!"อาโออิร้องขึ้นลั่น สายตาแห่งความอาฆาตเพิ่มมองไปที่ไคอีกคน
"เฮ้ย เปล่าๆๆ นะ ฉันไม่รู้เรื่อง ฉันไม่ได้คิดอะไรด้วยกับเจ้าหมอนั่นเลย ความคิดมันคนเดียวเลย"ไคโบ้ยเต็มที่ ซึ่งมันก็เป็นจริงตามนั้น
"แล้วไหนนายบอกจะไม่เล่นด้วยไง นี่ตามมาทำไมเนี่ย?"รุกิเสริม
"ก็มันว่างนี่หว่า วันนี้วันวาเลนไทน์ทั้งที...อยากมีด่งมีเดทกะเค้ามั่ง แต่ก็ไม่มี เลยไม่รู้จะทำไร นึกได้ว่านายมีแผนเด็ดๆเลยตามมา แหะๆ"ไคยิ้มแห้งๆแต่ดูเหมือนอาโออิจะไม่ได้อยากยิ้มด้วย
"นายรู้เรื่องแล้วทำไมไม่บอกฉันห๊ะ!! แบบนี้ก็เรียกว่าสมรู้ร่วมคิดอยู่ดี ไอ้ไคไอ้รุกิ แกตายยยยย!!!"อาโออิเดือดดาลขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมทำท่าจะประหารทั้งสองคนนั้นให้แหลกราญคามือ
"เด๊วๆๆๆ เดี๋ยวก่อนๆ ฉันไม่ได้หลอกนายคนเดียวหรอกนะ"รุกิรีบยกมือขึ้นมาป้องกัน
"อะไรนะ??"
"ยังมีเรย์ตะกับอุรุฮะ...สองคนนั้นก็กำลังจะโดนเหมือนนายนี่แหละ นายเป็นเหยื่อรายเแรก"ไคช่วยเสริมราวกับเป็นพวกเดียวกับรุกิไปแล้ว
"ใช่ๆ...เพราะฉะนั้น นายจะมีเพื่อนร่วมหน้าแตก 555"รุกิหัวเราะอย่างนึกมีชัย
"โห...ไอ้รุกิ แกนี่มันร้ายกาจจริงๆโว้ย ฉันไม่ยอม ฉันจะไปบอกสองคนนั้น!"อาโออิแข็งขืนพลางทำทียกโทรศัพท์ขึ้นมา
"แน่ใจเหรออาโออิ...นายแน่ใจเหรอที่จะโดนหลอกอยู่คนเดียว นายไม่อยากเห็นเหรอปฏิกิริยาของเจ้าสองคนนั่นเหรอ มันอาจจะขำจนทำให้นายหายโกรธฉันเลยก็ได้นา...คึคึคึ"ความเจ้าเล่ห์ของรุกิเริ่มบังเกิดอีกครั้ง และดูท่าทางอาโออิจะลังเล...ใบหน้าที่ขมุกขมัวเมื่อครู่พลันแย้มยิ้มขึ้นมา
"เออว่ะ...ไอ้เรย์ตะ ไอ้อุรุฮะ...ว่ะฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ"และแล้วรุกิก็สามารถสร้างพรรคพวกได้เสียอย่างนั้น

หลังจากที่เดินทางมาถึงยังร้านอาหาร FEE ก็เหลือเวลาอีกสี่สิบห้านาทีก่อนที่เหยื่อรายต่อไปจะมา รุกิใช้เวลาที่ยังไม่ถึงสั่งอาหารเลี้ยงทั้งอาโออิและไคเป็นการไถ่โทษเล็กน้อย ก่อนจะพูดคุยเฝ้ารอถึงความสนุกที่กำลังจะมาเยือนในอีกไม่นานต่อไปนี้ด้วยท่าทีที่นึกคึก

"เฮ้ยอีกสิบนาที พวกนายไปนั่งตรงโน้นๆ อย่าโผล่หน้ามาให้เรย์ตะเห็นนะ เอาล่ะฉันไปนั่งใกล้ๆประตู"รุกิว่าพลางลุกแยกไปนั่งอีกโต๊ะหนึ่ง พลางทำทีเฝ้ารอใครบางคนด้วยจิตใจจดจ่อ

"โอ้โห...มันทำได้..."อาโออิทึ่งในท่าทีที่เคยได้เห็นเมื่อครู่ มันดูน่ารักจนเกือบหลงไปแล้วเชียว
"เมื่อกี้นะหน้าแกโคตขำเลยว่ะก๊ากกก"พอคิดถึงเหตุการณ์ที่ยืนแอบดูเมื่อครู่ไคก็หัวเราะขึ้นมา แต่ก็โดนสันเมนูพิฆาตฟาดเข้าที่กระบาลอย่างไม่ปราณี...โอ้ย...

สิบนาทีเลยจากเวลาที่นัดหมายกันแล้ว รุกิเฝ้ารอจนเริ่มเบื่อ เพราะเขามาก่อนเวลาหลายนาทีแล้ว แล้วนี่เรย์ตะก็ยังมาเลทอีก ดูเหมือนว่ารุกิจะเริ่มร้อนรนกลัวแผนไม่สำเร็จ จึงทำทีจะโทรศัพท์ไปจิก แต่แล้ว...

"อ๊ะ..."ทันทีที่เงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง เรือนร่างสุดแสนเท่ของชายหน้าคมก็ปรากฏตัวเข้ามาที่ร้านแห่งนี้ ผ้าคาดจมูกถูกเปิดออกให้เห็นถึงความหล่อเหลาที่ไม่มีที่ปกปิด หมวกคลุมที่ต้องพรางกายเล็กน้อยยิ่งเสริมความดูดีให้ยิ่งมีเสนห์ รอบนี้รุกิเกือบเป็นฝ่ายหลงเข้าเสียเองแล้วถ้าหากไม่ได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักที่ดังมาจากมุมหนึ่ง และต้องรีบยกมือเรียกเรย์ตะเพื่อเบนความสนใจก่อนจะมองไปเห็นถึงไคและอาโออิ

"คิกๆๆๆคักๆๆๆ คุ่กๆๆๆ แค่กๆๆ กั่กๆๆๆ"ทั้งไคทั้งอาโออิหัวเราะแบบอดกลั้นกันอย่างทรมาน การปรากฏตัวของเรย์ตะมันทำให้น่าขันก็ตรงที่ ร้อยวันพันปีไม่เคยจะเห็นมันแต่งตัวดูดี เสริมเติมแต่งหน้าด้วยตัวเองให้หล่อเหลาเอาการ แถมยังเปิดผ้าคาดจมูกในที่สาธารณะ...อย่าบอกนะว่าที่มาช้านี่ก็เพราะมัวแต่แต่งหล่อ...

"เออ ขอโทษนะที่มาช้า"เป็นเรย์ตะที่โพล่งขึ้นมาก่อน รุกิแอบอมยิ้มเพราะสุดจะกลั้นเสียงหัวเราะ เรย์ตะเป็นเอามากกว่าอาโออิอีกแฮะ
"ไม่เป็นไร ฉันสั่งอาหารเผื่อนายแล้วนะ"รุกิทำเสียงเล็กเสียงน้อยตอบกลับไป
"อ่อ อืม..."แม้จะดูเคร่งขรึม แต่นั่นมันเป็นอาการบ่งบอกถึงความเคอะเขินของเรย์ตะได้อย่างชัดเจน มันดูไม่เป็นตัวของตัวเองอีกทั้งยังเก๊กเกินไปเสียด้วย
"ฉันน่ะ...มีอะไรอยากจะบอกนายตั้งนานแล้ว แต่พอดีเห็นว่าวันนี้เป็นวันสำคัญเลยเก็บไว้มาบอกวันนี้ดีกว่า"รุกิยิ้มเล็กยิ้มน้อย สะกดให้เรย์ตะแน่นิ่งไปเลยทีเดียว
"อะ...อะ...อะไรเหรอ"กว่าจะถามออกไปได้ รู้สึกเหมือนมีความรักมาจุกที่ลำคองั้นล่ะ
"เรย์ตะ.."
"หะ...หือ?"ใบหน้าคมของหนุ่มมือเบสนิ่งงัน แต่ภายในกำลังเฝ้ารอคำสำคัญที่กำลังจะหลุดออกมาจากปากคนตรงหน้าอยู่ทุกวินาที

"อาหารได้แล้วครับ"เสียงนรกขัดจังหวะ เรย์ตะแทบอยากลุกขึ้นไปบีบคอบริกรหนุ่มคนนั้น แต่ก็ต้องเก็บอาการแล้วนั่งนิ่งต่อไป

"ฉันชอบนาย..."แต่แล้วคำศักดิ์สิทธิ์นั้นก็ถูกโพล่งออกไป เรย์ตะนิ่งแข็งเป็นหินราวกับถูกเวทมนต์ นั่นยิ่งเพิ่มความทรมานของการกลั้นหัวเราะของทั้งอาโออิและไคไปกันใหญ่เลยทีเดียว
"เอ่อ..."ความอึ้งประดังเข้ามาจนพูดอะไรไม่ออก
"นายคิดยังไงกับฉันเหรอ"รุกิยังเล่นบทเดิมต่อไป ในมือยังถือกล่องมหาประลัยที่เคยใช้กับอาโออิเมื่อครู่เตรียมให้เหยื่อไว้ให้คนนี้ด้วย
"เอ่อ คือ ฉัน เอ่อ...คือเรา...เราคบกันมานานก็จริงนะรุกิ แต่เรื่องนี้มันออกจะกระทันหันเกินไป...เอ่อ..."เรย์ตะอ้ำอึ้งราวกับสูญเสียความเป็นตัวของตัวเองไปแล้ว
"ไม่เป็นไรหรอก ฉันรอได้"...ป๊าดดด...ใจหนึ่งของรุกิก็แอบทึ่งตัวเองอยู่เหมือนกันว่าตูทำไปได้ยังง้ายยยยย
"เอ่อ...จะดีเหรอรุกิ"น้ำเสียงนั้นมันสุขุมขัดกับคำพูดเหลือเกินนะเรย์ตะ ที่จริงแล้วเขาตื่นเต้นจนหัวใจสั่นพองไปหมดแล้วต่างหาก
"ไหนๆฉันก็รอมาตลอดอยู่แล้ว รอต่อไปอีกซักหน่อย คงไม่เป็นไรหรอก"รุกิแสร้งยิ้มเศร้าๆออกมาจนน่าหมั่นไส้
"รุกิ..."เอาเข้าแล้ว ติดกับหมดตัวแล้ว เรย์ตะยกมือทั้งสองขึ้นมาพร้อมกับยื่นมันไปเกาะกุมมือน้อยๆของคู่สนทนาที่กำลังถือกล่องมหาประลัยอยู่ รุกิสะด้งเฮือกเลยทีเดียว

"ขอเวลาฉันหน่อยนะ...ฉัน...อยากลองทบทวนคิดอะไรดูซักหน่อย"ใบหน้านิ่งดูจริงจังกับคำพูดราวกับมันเป็นเรื่องจริง...แน่ล่ะก็เรย์ตะเขาเข้าใจว่ามันเป็นเรื่องจริงนี่หน่า

"ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"
ผวัะ....เสียงหลุดหัวเราะถูกตามมาด้วยสันเมนูพิฆาตอีกรอบ แต่คราวนี้ผู้ถูกกระทำกลับเป็นอาโออิ

"เสียงใครน่ะ?...ทำไมมันฟังคุ้นๆพิกล?"
"คิดมากไปแล้วเรย์ตะ...กลับมาเรื่องของเราดีกว่า ฉันมีของจะให้นายด้วย"แล้วบทสรุปของเรื่องราวก็กำลังจะจบลง ราวกับเวลาของความสุขเล็กๆน้อยๆของเรย์ตะกำลังจะถูกเชือดเชือน กล่องมหาประลัยถูกยื่นเข้าไปในมือใหญ่ของคนตรงหน้า

"เปิดสิ"

ชั่ววินาทีที่รุกิกำลังนั่งลุ้น เขาก็กำลังพยายามอดกลั้นเสียงหัวเราะให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ข้อความในกล่องมหาประลัยกำลังจะปรากฏต่อสายตาเรย์ตะและอีกไม่กี่วินาทีต่อไปนี้เขาอาจจะโดนเรย์ตะขุ่นเคืองแล้วจับหัวทิ่มลงจานสปาเกตตี้ก็เป็นได้

[ไอ้หน้าโง่ โดนหลอกแล้วโว้ย!!!]

FAKE VALENTINE 3

[ไอ้หน้าโง่ โดนหลอกแล้วโว้ย!!!]

"................"

"คึคึคึ"...เสียงหัวเราะที่ดูเหมือนจะทรมานร้าวรานราวกับโดนมีดผ่ากลางหลังก็ไม่ปาน ซึ่งมันเริ่มจะไม่ไหวแล้วนะ มันไม่ไหวแล้วนะ

"ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

"กร๊ากกกกกกกกกกกก ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ว่าะฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ก๊ากๆๆๆๆ กั่กๆๆๆคุ่กๆๆๆ"

แล้วเสียงหัวเราะอันสยองขนพองเกล้าก็ตามกันมาเป็นระลอกเมื่อถูกเปิดประเด็นโดยนายรุกิ รุกินั่งหัวเราะท้องคับท้องแข็งอยู่ที่โต๊ะ เหมือนๆกับอาโออิและไคที่นั่งอยู่ด้านหลังฉากกั้น สาดเสียงนรกจนคนทั้งร้านหันมามอง

"พ...พวกนาย"เรย์ตะโพล่งขึ้น เมื่อทั้งไคและอาโออิเดินมาปรากฏตัวที่โต๊ะข้างๆพร้อมกับใบหน้าที่กลั้นหัวเราะอีกรอบอย่างสุดจะทน
"ฮ่า ฮ่า ฮ่า นายดูเป็นจริงเป็นจังมากเลยเรย์ตะ ไมไหวแล้วโว้ย ฮาโว้ย...!!!"ไคระเบิดหัวเราะอย่างกลั้นไว้ไม่อยู่แล้วพ่อข้าแม่ข้าเอ๊ย
"พ...พวกนาย...."เรย์ตะทำหน้าเบะ ใบหน้าที่เคยดูทั้งเท่และมาดแมนเมื่อครู่มันหายวับไปกับตา
"ฮ่าๆๆๆ ขำๆน่ะเรย์ ไอ้พวกนี้มันวิปริต ดูมันแกล้งนายสิ โอ๋ๆๆ อย่าร้องไห้น๊า"อาโออิทำท่ายกมือมาจ่อหน้าเรย์ตะเหมือนปลอบเด็ก
"แง้...................."

กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

แล้วทุกคนก็ลั่นหัวเราะออกมาพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย...

เหยื่อรายสุดท้าย และตอนนี้ก็เหลือเวลาเพียงแค่สิบห้านาทีก่อนจะไปถึงยังแม่น้ำ KOO ที่ได้นัดหมายอุรุฮะไว้ ทั้งสี่ที่ดูเหมือนตอนนี้จะอยู่ในก๊วนขบวนการลวงโลกวาเลนไทน์เดย์ด้วยกันไปแล้วนั่น กำลังมุ่งหน้าตรงมายังปลายทางอย่างเร่งรีบ

"เฮ้ย อุรุฮะมาแล้ว!"รุกิวิ่งติดเบรค สายตาที่มองสอดส่องไปยังริมแม่น้ำที่ห่างไกลออกไปเพียงนิด ปรากฏชายหนุ่มร่างสูงยืนชะลูดลู่สายลมที่พัดผ่านอยู่อย่างมาดมั่น
"มันมาก่อนเวลาอีกนะ นี่ยังไม่สองทุ่มเลย"ไคว่า
"เอาน่ะ ฉันต้องไปแระ คนสุดท้ายสำหรับแผนนี้!! มามันส์กันในวันวาเลนไทน์ ฮ่าๆๆๆๆ"รุกิระเบิดหัวเราะขึ้นอย่างสะใจ ที่เพื่อนๆของเขาหลงกลเขาเสียทุกราย
"เอ็งนี่มันร้ายกาจจริงๆ"อาโออิว่าอย่างระอาที่ตัวเองโดนหลอก แต่ก็ดูจะเป็นอะไรน้อยกว่าเรย์ตะที่ตอนนี้...สภาพล่องลอยและทรุดโทรม ความหล่อหลุดเลือนจางหายไปกับสิ่งลวงตาเมื่อครู่ไปเสียสิ้น ราวกับคนอกหักก็ไม่ปาน...

รุกิให้เพื่อนทั้งสามยืนซุ่มอยู่ ณ พุ่มไม้ที่อยู่ห่างออกมาเพียงนิด ด้วยความมืดและคลื่นเสียงของรถยนต์ที่อยู่ตรงสะพานด้านบน ทำให้อุรุฮะไม่ได้สังเกตเพียงพอตอนที่ทุกคนกำลังวิ่งมา รุกิค่อยๆจัดแต่งเสื้อผ้าให้ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย เตรียมกล่องของขวัญมหาประลัยเพื่อการณ์นี้อีกครั้ง ก่อนจะค่อยๆเดินเผยตัวออกจากพุ่มไม้ไปทางที่อุรุฮะยืนอยู่...

ใบหน้าสวยของคนร่างสูงฉีกยิ้มต้อนรับร่างเล็กที่เดินเข้าไปหาอย่างเต็มใจ

"ขอโทษที่มาช้า"รุกิเอ่ยตามมารยาท ใจหนึ่งก็เกือบจะหลุดหัวเราะ เพราะเริ่มจะเมื่อยกับการเล่นละครของตัวเองพอแล้ว
"อืม ไม่เป็นไร"ร่างสูงตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่สุขุม
"คึคึ...อุรุฮะ ฉันมีอะไรจะบอกนาย"รุกิเผลอหลุดหัวเราะออกไปนิดนึงด้วยความลืมตัว เพราะเห็นท่าทีที่เหมือนกันแบบนี้มาถึงสองคนแล้ว พลางคิดว่าทำไมไอ้เพื่อนพวกนี้ถึงได้หลงกลเขาง่ายๆแบบนี้กันนะ
"ฉันก็มีอะไรจะบอกนายเหมือนกัน"

เอ่ะ...อันนี้เริ่มจะไม่เหมือน...รุกิสะดุ้งเล็กน้อย แต่ก็พอเก็บอาการได้อยู่

"นะ...นายบอกก่อนดิ"รุกิทำทีให้ดูน่ารักน่าชัง ทำเสียงเล็กน้อยออกไป
"อืม..."อุรุฮะรับคำอย่างว่าง่าย ริมฝีปากอวบอิ่มขยับยิ้มเล็กน้อย ใบหน้าดูเคร่งขรึมที่เคลือบแฝงไปด้วยความใจดีอย่างน่าประหลาด รุกิหรี่ตามองร่างสูงตรงหน้าด้วยความรู้สึกฉงนอยู่นิดๆ ถึงแม้อุรุฮะจะดูหลงกลเขาเหมือนสองคนที่ผ่านมาก็จริง แต่มันกลับให้บรรยากาศที่เหมือนจะขำไม่ออกยังไงพิกล

"ฉันชอบนาย"

เกิดความเงียบขึ้นชั่วขณะหนึ่ง รุกิกำลังคิดว่าตัวเองโดนเล่นแผนซ้อนแผนอยู่หรืออย่างไร ไอ้เพื่อนตัวดีสามคนก่อนหน้านี้มีใครแอบเอาเรื่องของเขามาบอกอุรุฮะก่อนรึเปล่า สิ่งที่เขาได้ยินจากปากอุรุฮะเมื่อครู่นี้คือแผนที่อุรุฮะจะแกล้งใช้ย้อนเขากลับใช่ไหม แล้วแบบนี้เขาควรจะตอบกลับไปว่าอะไรดีล่ะ เพื่อเป็นการซ้อนแผนของอุรุฮะอีกที

"ฮ่าๆๆๆๆ จริงเหรอ...ง้านเหรอ อุรุฮะ ทำไมนายนิใจตรงกานกะช้านเลยล่ะ"แต่แล้วก็จำเป็นต้องเล่นตามเกมของตัวเองต่อไป
"จริงเหรอ?"อุรุฮะถามกลับ ใบหน้ายังคงนิ่งงัน หากแต่ยังแอบแฝงด้วยรอยยิ้มปริศนาที่จับอารมณ์ไม่ถูกเลย
"ช่าย ฉันก็ตั้งใจจะบอกนายแบบนั้นเหมือนกัน แต่ว่า...ฉันมีของขวัญจะให้นายด้วย"รุกิเริ่มจับทางไม่ถูก พยายามหาทางปิดประเด็นนี้แต่โดยเร็ว ในมือพยายามยื่นกล่องมหาประลัยนั้นออกไปแต่กลับรู้สึกสั่นไปหมด

"ฉันล้อเล่น"
"ห่ะ?"รุกิอึ้ง อุทานพร้อมมองหน้าอุรุฮะค้าง ในมือก็ถือกล่องมหาประลัยค้างไว้เช่นกัน
"ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ"แล้วอุรุฮะก็ระเบิดหัวเราะออกมาเช่นกัน สีหน้าที่ดูเคร่งขรึม

11/02/2009

Comments

© Masoul's BLOG. All Rights Reserved. Designed by HTML Codex