Cassis บทเพลงแห่งโชคชะตา -8-

Image

Cassis บทเพลงแห่งโชคชะตา -8-

2017-09-27 01:27:15

article-fic

เขาคิดไปถึงวันที่เคยคุยกับรุกิ...อาของรุกิคนที่มาติดต่อซื้อบ้านกับ แต่รุกิไม่ชอบ เพราะชอบมายุ่มย่าม....

ตอนนั้นเขายังคิดเล่นๆอยู่เลยว่า เขาอาจจะเป็นพระเอกไปช่วยรุกิตอนรุกิโดนขืนใจ คิดไปยังขำไป.....แต่เอาเข้าจริงๆ เขาช่วยไว้ไม่ทัน...

เจอเข้าจริงๆ มันไม่ขำเลยซักนิด...

ถ้าหากเขามาเร็วกว่านี้เขาคงช่วยรุกิไว้ได้ทัน โดยที่รุกิไม่ต้องฆ่าใคร...

เขากลืนน้ำลายลงอย่างฝืนทน ก่อนจะกลับมาที่รุกิที่ยังมีสายตายังคงเลื่อนลอยกับท่าทางที่ไม่เป็นผู้เป็นคน รุกิดูเหมือนคนบ้าไร้วิญญาณ เขาเก็บปืนที่รุกิยื่นมาให้แล้วลากตัวรุกิไปขึ้นรถ ก่อนจะมีใครมาเห็นเข้า

เขาขับรถไปจากที่นั่นด้วยความรวดเร็ว แต่รุกิยังคงนั่งใบหน้าเลื่อนลอย สายตานั้นดูราวกับจะไม่มีแววตาแล้ว

แต่ตอนนี้จะทำยังไงให้รุกิดีขึ้นกันนะ?

เขาเองก็ไม่รู้ว่าขับรถมาถึงไหนแล้ว แต่ที่แน่ๆ มันไกลห่างจากที่เกิดเหตุพอที่จะไม่มีใครตามมาถึง เขาเปิดประตูให้รุกิได้ออกไปรับอากาศบริสุทธิ์ แต่ดูเหมือนเรี่ยวแรงของรุกิได้หายไปพร้อมกับน้ำตาที่รินไหลมาตลอดทาง

เขาดึงตัวรุกิเข้ามากอดไว้ในอ้อมอกกว้าง เป็นการปลอบ รุกิร่ำไห้ตัวสั่นสะอื้นอยู่อย่างนั้น จนเวลาล่วงเลยผ่านไปนาน

ตอนนี้เราไม่ต่างกันเลย

ทำไมชีวิตของเจ้านี่ถึงได้เจอแต่เรื่องเลวร้ายกันนะ ถึงเขาจะคิดแบบนั้น ตัวเขาเองก็เลวร้ายไม่ต่างกันไม่ใช่เหรอ อีกอย่าง หนึ่งในคนที่ทำให้ชีวิตรุกิเป็นแบบนี้ก็เพราะเขา ถ้าหากไม่มีเขาอยู่บนโลกนี้ก็ดีสินะ รุกิจะได้ไม่เจ็บปวดแบบนี้ ถ้าหากวันนี้รุกิยังคงมีพ่อแม่อยู่...

ตัวรุกิเองก็คงไม่รู้จะใช้ชีวิตกับมือเปื้อนเลือดไปแล้วยังไง ส่วนเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะกลับไปเจอหน้าไคแบบไหน ชีวิตที่เปื้อนเลือดเหมือนๆกันนี้ จะใช้มันต่อไปอย่างไรดี?

"ฉันเป็นฆาตรกร..."แล้วรุกิก็โพล่งขึ้นมา เขาเองก็ไม่รู้จะตอบกลับไปยังไง ในเมื่อตัวเขาเองก็เป็น และยังเลวร้ายกว่ารุกิหลายร้อยเท่า
"นายฆ่ามันจริงๆน่ะเหรอ?"เขาลองถามถึงเหตุการณ์
"มันทำฉันก่อน! มันลากตัวฉันมาจากที่บ้าน มันเอาปืนมาขู่ฉัน มันซ้อมฉัน แล้วมัน....."รุกิเล่าอย่างหวาดผวา เขายังคงนิ่งตั้งใจฟังทุกเหตุการณ์

"มันจะข่มขืนฉัน แต่ฉันคว้าปืนมันมาได้ ก็เลย..."แล้วรุกิก็เว้นว่างไว้อีก เขาพอจะเข้าใจเหตุการณ์ทั้งหมดแล้ว แต่ใบหน้าที่รับรู้รั้รยังคงนิ่งเฉย หากแต่ได้คส้าตัวรุกิเข้ามากอดไว้อีกครั้ง
"พาฉันส่งตำรวจที"รุกิว่าต่อ
"ไม่"แต่เขากลับตอบออกไปอย่างฉะฉาน
"ทำไม...ฉันทำผิดนะ"รุกิยันตัวเขาออก เงยหน้ามองใบหน้านั้นด้วยความงุนงง
"ตามกฎหมายนายผิด แต่ตามความคิดฉัน นายไม่ผิด"เขาก้มหน้านิ่ง ใช่...ที่รุกิทำก็แค่ป้องกันตัวเท่านั้น
"ต..แต่...มันไม่เกี่ยวอะไรกับนาย. ..."รุกิโวยออกไป
"เกี่ยว!!"เขาตะคอกกลับ
"เรย์ตะ.. ..ขอร้องล่ะ ฉันไม่อยากใช้ชีวิตอยู่อย่างทรมาน อยากได้รับการชดเชยความผิด ไม่งั้นฉันคง. ...ไอ้บ้านั่นมันต้องตามมาหลอกหลอนฉันแน่ๆ"ถึงสายตารุกิจะมืดมน แต่ยังคงมีสติดี

เหตุผลที่ไม่ส่งรุกิไปโรงพัก เพราะเขาเองก็ไม่ถูกกับตำรวจ และ นอกจากนั้น เขาไม่อยากให้รุกิต้องไปอยู่ในคุก

"ฉันจะอยู่กับนายเอง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น"แล้วเขาก็พูดออกไป ถึงแม้จะไม่เข้าใจความหมายมันเท่าไหร่
"จะบ้ารึไง เรย์ตะ. ...ตัวนาย จะสู้กฏหมายได้ยังไงกัน ฉัน.. .ทำผิด ก็ต้องได้รับโทษ นั่นมันเป็นเรื่องที่ถูกต้องที่สุดแล้ว"รุกิพูดถูก แต่เขาก็รับมันไม่ได้
"ฉันบอกว่าฉันจะอยู่กับนายไม่ได้ยินรึไง ถ้านายจะได้รับโทษยังไง ฉันก็จะรับด้วย ถึงนายจะตายฉันก็จะตายด้วย!"เขาตะคอกไปด้วยความโมโห ถึงแม้ว่าเขาคงจะไม่ทำแบบนั้นจริงๆ ก็แค่รำคาญที่รุกิอ้างกฎหมายอยู่นั่น แล้วมันยังไง ถ้ารุกิได้รับโทษ ตัวเขาเองก็คงจะไม่สมควรมีชีวิตอยู่แล้ว

ที่เขาอยู่มาได้ทุกวันนี้...ก็เพราะกฎหมายไม่สามารถทำอะไรเขาได้นั่นแหละ...และเขาก็จะช่วยรุกิเหมือนกัน...รุกินิ่งเงียบไป ไม่พูดอะไรอีก...ทำได้เพียงหันหน้ากลับไปทางเดิม ก้มหน้านิ่ง ร้องไห้สะอึกสะอื้นเพียงคนเดียว

เขาขับรถพารุกิไปเรื่อยๆ ไปที่ไหนตัวเขาเองก็ไม่รู้ เขาเองก็ไม่อยากอยู่ที่นี่ เขาไม่อยากกลับไปที่บ้านอีกแล้ว เขาไม่อยากต้องทำงานให้พี่ชายไคอีก

เขาก็อยากใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไปบ้างเหมือนกัน

"เรากำลังจะไปไหน?"รุกิถามขึ้น หลังจากที่สงบจากแรงร่ำไห้แล้ว
"ฉันก็.. ..ไม่รู้เหมือนกัน"
"แล้วนายไม่กลับบ้านเหรอ?"
"ฉันบอกแล้วไง ว่าฉันจะอยู่กับนายเอง"
"ไม่ต้องรับผิดชอบชีวิตฉันขนาดนั้นก็ได้ ฉัน...ช่วยเหลือตัวเองได้"
"แต่ฉันอยากช่วยนาย"
"แล้วไคซังเค้าไม่เป็นห่วงนายเหรอ?"
"ไม่รู้สิ"
"นายเป็นบ้าไปแล้วเหรอ เรย์ตะ"
"คงงั้น"

แล้วรถคันหรูของเรย์ตะก็แล่นไปอย่างไม่รู้จุดหมาย.........

ผ่านไปนานเท่าไหร่แล้วนะ จากการที่เรย์ตะพารุกิหนีมา เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าที่นี่ที่ไหน รู้แต่มันอยู่ไกลจากโตเกียวพอดู โทรศัพท์ที่แบตหมดมานาน ไม่รู้ว่าไคโทรมากี่สายแล้ว ตอนนี้มันคงจะตกรุ่นไปแล้ว เส้นผมของเขาที่ยาวเลยบ่าไม่ได้ตัดจนมันกระเซอะกระเซิงไปหมด ไคจะออกตามหาเขาบ้างไหม พี่ชายไคจะเดือดร้อนที่เขาไม่อยู่ทำงานไหม เขาคิดเล่นๆ ขณะที่พักจากงานรีดนมวัว

"เรย์ตะ วันนี้คุณลุงเขาให้นมมาเพียบเลย"รุกิยิ้มร่า พร้อมกับหอบถังนมวัวที่เพิ่งจะรีดเสร็จ
"เหรอ ดีแล้วล่ะ นายกินนมเยอะๆ จะได้สูงๆ"เขาแซวเล่น
"โห คงจะทันนายหรอก"รุกิทำหน้าเบ้

รุกิเอานมไปเก็บไว้ในตู้เย็น ในบ้านหลังเล็กที่เขาเช่าอยู่ด้วยกัน เขาเองก็ไม่รู้ว่ามันกลายมาเป็นแบบนี้ได้ยังไงกัน นักธุรกิจร่ำรวยในบริษัทใหญ่โตต้องมาทำงานเป็นคนเลี้ยงวัวอยู่บ้านนอกกับชายหนุ่มใสซื่อ เซ่อซ่าที่กลายเป็นฆาตรกรในชั่วพริบตา

ถ้าคิดให้ดีแล้ว เขาก็แค่รู้สึกดีที่มีเพื่อนร่วมชะตากรรม
หรือว่า เขาจำยอมต้องรับผิดชอบกับชีวิตที่เขาทำให้กลายมาเป็นแบบนี้

"ไปตลาดกันเถอะ"เขาชวนรุกิขึ้น เพื่อกลบเกลื่อนความคิดของตัวเอง ก่อนจะลุกขึ้นจูงมือรุกิเดินออกจากบ้านไป

ในเมืองของหมู่บ้านที่เขามาอยู่มีตลาดเล็กๆที่เขาออกมาจับจ่ายซื้อของอยู่เป็นนิจ รุกิกลายเป็นคนดังของหมู่บ้านด้วยหน้าตาน่ารักและโดดเด่น ไม่ว่าไปที่ไหนก็มีแต่คนทัก บางร้านยังให้ของกินฟรีติดไม้ติดมือกลับ

เรย์ตะมองท่าทีอันร่าเริงนั้น พลางยิ้ม ถ้าหากเขาปล่อยให้รุกิโดนจับ เขาจะได้เห็นรอยยิ้มอันสดใสของรุกินี้มั้ยล่ะ

ถ้าหากเขายอมให้รุกิทรมานอยู่คนเดียวกับบาปที่รุกิไม่ได้ตั้งใจจะก่อ เขาจะได้เห็นดาวดวงน้อยของหมู่บ้านเล็กๆนี้มั้ยล่ะ

ถึงแม้จะทิ้งความรักที่ไม่มีทางสมหวัง

ถึงแม้จะต้องทรยศกับหน้าที่ของตัวเอง

ถึงแม้มือที่เปื้อนเลือดของเขามันจะทดแทนอะไรไม่ได้ กับการช่วยชีวิตคนหนึ่งคน....
และถึงแม้การช่วยเหลือรุกิ จะชดเชยให้กับความผิดที่เขาฆ่าพ่อรุกิไม่ได้ก็ตาม....

"มากินข้าวเร็วเรย์ตะ วันนี้ได้ของฟรีมาเพียบเลย"รุกิเรียกขึ้น หลังจากเตรียมอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว
"อื้ม"เรย์ตะ ละตัวจากริมหน้าต่าง แล้วเดินมากินข้าวบนโต๊ะเล็กๆใจกล้างบ้าน
"เออ ใช่ พรุ่งนี้คุณลุงชวนไปเก็บสตอเบอร์รี่ที่สวนด้วยล่ะ ไปด้วยกันนะ"รุกิยิ้ม
"อื้อ เอาสิ"

เขาใช้ชีวิตแบบนี้มาเกือบปีแล้วเหรอเนี่ย ตอนนี้เขากลายเป็นหนุ่มบ้านนอกไปเต็มตัวแล้วสินะ กับการที่ต้องเก็บผัก เก็บสวน เลี้ยงวัวเลี้ยงควายเนี่ย แต่ดูรุกิเองก็มีความสุขดี แค่นี้ก็เพียงพอแล้วมั้ง เขาจะหวังอะไรไปมากกว่านี้ได้ล่ะ ในเมื่อต่อให้เขาอยู่กับไคต่อไป เขาก็ไม่สามารถรักกับไคได้ และคงเป็นได้แค่ทาสรับใช้ให้กับพี่ชายของไค ที่ต่อให้เป็นเรื่องเลวร้ายแค่ไหน เขาก็ต้องทำ แต่ตอนนี้มันจบไปแล้ว. ... .

รุกิจับมือเรย์ตะไว้ในขณะที่เดินไปยังสวนสตอเบอร์รี่อยู่ข้างทางถนนที่มีรถแล่นผ่าน เขามองไปยังรถเหล่านั้น รถของเขาที่เคยใช้ขับหนีมากับรุกิ ก็ได้ขายไปแล้ว ทันใดก็มีรถคันนึงแล่นมาทางข้างหลังพวกเขาแล้วเบรกจนเกิดเสียงดัง สัญชาติญาณของเขาตื่นตัวขึ้นมาทันที

ปึง!

เสียงปิดประตูรถดังขึ้น แต่เรย์ตะก็ยังไม่หันไป และรุกิเองก็ไม่ได้สนใจอะไร ยังคงเดินจับมือเรย์ตะฮัมเพลงเดินต่อไปยังทางสวนสตอเบอร์รี่

"ปล่อยมือเรย์ตะซะ เจ้านักร้อง"

กริ๊ก...

เสียงนั้นดังขึ้นพร้อมกับเสียงสับไกปืน

เขายืนนิ่งทันที. ....

To be continue...

Comments

© Masoul's BLOG. All Rights Reserved. Designed by HTML Codex