Cassis บทเพลงแห่งโชคชะตา -6-

Image

Cassis บทเพลงแห่งโชคชะตา -6-

2017-09-27 01:21:21

article-fic

"เรย์ตะ ตื่น ตื่นได้แล้ว ทำไมวันนี้ตื่นสายแบบนี้ ตื่นๆ"ไคเคาะประตูเรียกเขาแต่เช้า

เมื่อวานเขาทั้งเพลีย ทั้งเหนื่อย จากงานพิเศษ แต่ก็ต้องลุกขึ้นจากเสียงเรียกของไค เขาตื่นขึ้นพร้อมกับหาววอดใหญ่ ก่อนจะลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำ แล้วลงไปกินข้าวพร้อมกับไคและพี่ชายไคในวันหยุดนี้

"เมื่อกี้ผมดูข่าว"ไคโพล่งขึ้นขณะกินข้าวด้วยกัน
"หือ?"พี่ชายไค ทำเสียงขึ้นจมูกอย่างไคร่รู้
"นักธุรกิจชื่อดังถูกสปอร์ตไลท์ตกลงมาทับหัว ตอนนี้อาการร่อแร่ เหมือนจะไม่รอดแต่ถ้ารอดก็ไม่เต็มเต็ง ประมาณนั้น"ไคเล่าอย่างนึกหวั่น
"งั้นเหรอ"พี่ชายไครับคำเหมือนทุกครั้ง ที่มีข่าวแล้วไคมักจะเอามาเล่าให้ฟัง
"ทำไมการแข่งขันเรื่องธุรกิจมันน่ากลัวแบบนี้นะ"ไคถอนหายใจออกมาเบาๆ
"เอ๋? นั่นมันอุบัติเหตุนี่"เรย์ตะรีบแย้ง
"ฉันว่ามันแปลกๆยังไงไม่รู้ ก็นักธุรกิจคนนี้กำลังมีปัญหากับหลายๆบริษัท เหมือนเค้ากำลังถูกจ้องจะเล่นงานอยู่แล้ว แล้วก็มาโดนแบบเนี้ย"
"อย่าคิดมากน่า"พี่ชายไคพยายามกลบเกลื่อน
"บริษัทเราก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีศัตรูนะพี่"ไคเริ่มหวั่น สายตาไคดูหม่นหมองลง
"ไม่มีใครทำอะไรเราได้หรอก เชื่อสิไค พวกเราจะไม่เป็นอะไรได้ง่ายๆหรอก"พี่ชายไคพูดอย่างรู้อยู่แก่ใจดี ด้วยรอยยิ้มแสนจะเยือกเย็น
"ถ้าเกิดซักวันผมเดินออกไปจากบ้านแล้วมีคนมายิงผม..."
"มันเป็นไปไม่ได้หรอก ตราบใดที่พวกเรายังมีเรย์ตะ เค้าช่วยปกป้องพวกเราได้อยู่แล้ว"พี่ชายไคแสยะยิ้มออกมาราวกับอสูรกายที่พร้อมจะเขมือบเหยื่อ ไคยิ้มน้อยๆออกมา พลางหันไปมองเขา แต่เขากลับไม่แสดงสีหน้าใดๆเลย

ฉันก็เป็นแค่โล่กันให้ครอบครัวนายเท่านั้นแหละ...

จากบทสนทนาอันน่ากลัวบนโต๊ะทานอาหารเมื่อครู่ ทำเอาวันอาทิตย์นี้ ที่ปกติไคจะออกไปเที่ยวเล่นกับเขาไม่ก็พี่ชาย แต่วันนี้ไครู้สึกกลัวจนไม่อยากออกไปไหน จึงนั่งดูหนังอยู่ที่บ้านกับเขาและพี่ชาย

บางที เขาก็รู้สึกไม่ชอบวันหยุดขึ้นมาเสียอย่างนั้น เขาอาจจะไม่ชอบช่วงเวลาที่ไคอยู่กับพี่ชาย เพราะไคจะเห็นความสำคัญของพี่ชายมากกว่า จนลืมเขา...

"เอ่อ..."เรย์ตะ ลองเอ่ยขึ้นเบาๆ ขณะที่ดูหนังกันอยู่
"หึ?"พี่ชายไคหันมาถาม
"ผมไปข้างนอกหน่อยนะ"เขาบอกอย่างประหม่า
"ไปไหนอ้ะ เรย์ตะ"ไคโผล่หน้าออกมาจากวงแขนของพี่ชายที่เขานอนตักอยู่
"ขับรถเล่น"เขาบอกก่อนจะรีบเดินออกจากบ้านไป เพราะกลัวว่าไคจะขอตามมาด้วยแล้วพี่ชายไคก็จะมาด้วยอีก...

เขาเพิ่งรู้สึกว่าถนนที่ทอดยาว กับแมกไม้ข้างทางที่เขาไปเมื่อวันก่อน มันทำให้เขาชุ่มชื่นหัวใจอยู่บ้างเล็กน้อย วันนี้เขาแอบหวังว่าจะได้เจอกับรุกิ เพราะมักจะได้เจอทุกครั้งที่ออกบ้านไปนอกเหนือจากที่ทำงาน

แต่เจอทีไรก็หาเรื่องมาให้เขาได้เดือดร้อนทุกที .. ........

แต่ว่านั่งอยู่เฉยๆ มันก็ไม่มีอะไรทำ ... .นี่หน่า. ..... .....

รู้ตัวอีกทีเขาก็มาจอดอยู่หน้าบ้านของรุกิซะแล้ว แต่ก็ไม่กล้าเข้าไป ได้แต่จ้องๆมองๆ ในขณะที่กำลังพินิจพิจารณาบ้านอยู่นั้น ก็ต้องตกใจเมื่อใบหน้าใครบางคนมาจ่ออยู่ตรงกระจกรถเขา

"เฮ้ยยย"เขาสะดุ้งจนตัวกระเด็นไปอีกเบาะ
"มาทำอะไร?"เขาอ่านจากปากที่รุกิพูด แล้วเลื่อนกระจกรถลง
"ก็...มาขับรถเล่นแล้ว...แวะมา"เขาว่าอย่างไม่ใส่ใจ แต่รุกิกลับยิ้มขึ้นมาเสียอย่างนั้น
"เข้าไปมั้ย?"รุกิเชิญชวน ไม่รอช้าเขาเดินลงจากรถแล้วเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ของรุกิ

ภายในตัวบ้าน มันไม่มีอะไรเลยซักอย่าง มีเพียงเก้าอี้กับโต๊ะ และตู้เก่าๆ หยากไย่ก็เต็มไปหมด กับพื้นพรมที่ฝุ่นจับหนา

"ขอโทษนะที่มันดูไม่ดีแบบนี้"รุกิว่า ก่อนจะนั่งลงตรงเก้าอี้ที่ไม่ค่อยมีฝุ่น คงจะนั่งบ่อย
"ไม่เป็นไร ฉันไม่ถือ"เขาว่าพลางหันซ้ายหันขวามองไปรอบๆบ้าน
"แล้วนี่แวะมาทำไมเหรอ? คิดถึงฉันเหรอ?"รุกิทำหน้ายียวนกวนประสาท
"มาทวงบุญคุณมั้ง"เขาเลยกวนกลับไปบ้าง
"งั้นเหรอ จะให้ฉันทำอะไรให้ล่ะ?"รุกิถามอย่างคิดว่าแน่
"เปล่า ก็ไม่มีอะไรแวะมาตามประสาคนรู้จัก"
"อืม นั่นสินะ...."
"เออ จริงสิ ฉันรู้ชื่อเพลงที่นายร้องแล้วนะ"เขาว่าขึ้น
"หือ? เพลงไรอะ?"
"cassis"
"แปลว่าอะไรน่ะ?"รุกิทำหน้างง
"จะไปรู้เหรอ ก็รู้มาแค่นั้น"เขายักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ
"ทำไมถึงได้สนใจเพลงที่ฉันร้องขนาดนั้นนะ"รุกิพูดยิ้มเป็นเชิงถาม แต่มันทำให้เขาอึ้ง...

ที่จริง ไม่ได้สนใจเพลง cassis ที่รุกิร้อง แต่...สนใจและหลงใหลในเสียงของรุกิมากกว่า เพราะต่อให้ครั้งแรกที่เขาได้ยินเสียงรุกิร้องเพลงอะไรก็ตาม...มันก็น่าหลงไหลทั้งนั้น

"เออ แล้ว ขายบ้านได้ยัง"เขาเปลี่ยนเรื่องทันที...
"เพิ่งติดป้ายไปเมื่อวานซืน คิดว่าจะขายได้ยังล่ะ?"แต่ก็ยังคงกวนประสาทไม่เลิก
"กวนมาก เดี๋ยวจับหักคอ"เรย์ตะหรี่ตา ก่อนจะใช้เสียงอันหยาบกระด้างว่าไป
"ก็มีแหละ แต่ฉันไม่ชอบเขาน่ะ"รุกิว่าพลางเบ้ปาก
"เอ้า มีหน้ามาเลือกลูกค้าอีกเรอะ"
"ก็เขาชอบมายุ่มย่ามกับฉันนี่...ฉันไม่ชอบ"รุกิย้ำ
"หือ?"ยุ่มย่ามแบบไหนน่ะ?
"เขาเป็นอาฉัน ตอนพ่อแม่ตาย ก็มาขอฉันไปเลี้ยงด้วย แต่ให้ตายยังไงก็ไม่ไป จะให้ไปนอนกับไอ้บ้านั่น ตายซะยังจะดีกว่า"รุกิว่าอย่างได้อารมณ์
"อ๋อ...แล้วทำไมไม่ขายให้เขา แล้วนายก็เอาเงินไปหาที่อยู่ที่อื่นซะ"เขาแนะนำไป
"ก็กะจะทำงั้นแหละ แต่ไม่ได้คุยกันดีๆซะที เข้ามาจะคุยเรื่องบ้านทีไร เป็นต้องมาลูบก้น ฉันก็เลยไล่กลับไปน่ะ"
"เสน่ห์แรงนิ"เขาแอบยิ้มกระหยิ่มแซวไป
"เฮ้ย แบบนี้ไม่เอา!!"รุกิขมวดคิ้วแล้วหันหน้าหนีอย่างไม่พอใจ ...ท่าจะไม่ชอบจริงๆ
"เอาน่า นายก็บอกเขารีบๆจ่ายตังค์ซะ แล้วนายก็วิ่งออกไปเลย"เขาแนะนำไปอย่างนึกขัน
"มันบอกมันจะโอนเข้าธนาคารฉันให้ แต่ไปดูมาแล้วมันก็ยังไม่มี ฉันก็เลยต้องคุยกับมันไปเรื่อยๆ ฉันรู้ว่ามันต้องการอะไร แต่ใครจะไปยอม"รุกิว่าอย่างถือตัว
"อ๋อ..."เขารับคำ

หวังว่าคงไม่เกิดเหตุการณ์อะไรที่เขาต้องเข้าไปช่วยหมอนี่อีกนะ อย่างเช่น กำลังถูกไอ้อาคนนั้นขืนใจ แล้วเขาเข้ามาช่วยอย่างพระเอกน่ะ คิดไปก็ขำไป....

"นี่ ฉันต้องกลับก่อนละนะ"เขาพูดขึ้นหลังจากมองนาฬิกาข้อมือ
"รีบกลับไปหาไคซังเหรอ?"รุกิยิ้มแซว
"ถ้าใช่แล้วไง"เขายิ้มกลับไปเหมือนกัน
"ก็ไม่เป็นไร ไคซังเค้าน่ารักดีนะ เสียดายจัง"รุกิทำทีกลอกสายตาไปมา
"ทำไม?"
"ก็แค่คิดว่า...ไม่เห็นจะเหมาะกับคุณเลย"รุกิหันมาทำหน้ากวน
"อย่ามายุ่งน่า"เขาแว้งกัด ก่อนจะเดินออกจากบ้านไป.... แต่มันยังมีอะไรบางอย่างค้างคาอยู่ในใจเขา เขาหันกลับไปมองรุกิอีกที

"หือ?"รุกิทำเสียงในลำคอ
"พ่อกับแม่นายเป็นอะไรตายเหรอ?"เขาลองถามดู หวังว่าเจ้านี่คงไม่เซ้นซิทีฟแล้วร้องไห้ออกมานะ
"พ่อโดนยิง แม่ฆ่าตัวตาย"

เขานิ่งไปชั่วครู่ ที่ได้รู้ว่า พ่อรุกิโดนยิง? เหตุผลที่พ่อรุกิมีบ้านใหญ่โตทิ้งไว้ให้นี่ล่ะ พ่อรุกิทำงานอะไร? เขาอยากรู้แต่เขาไม่กล้าถามออกไป และได้แต่นิ่งเงียบ

"เป็นอะไร จะแสดงความเสียใจให้รึไง ไม่ต้องหรอก ถึงตำรวจจะจับตัวฆาตรกรไม่ได้ ฉันก็เชื่อว่าซักวันไอ้ฆาตรกรมันก็ต้องโดนกรรมตามสนองเองแหละ"รุกิว่าต่อ เขารู้สึกสะดุ้งขึ้นมาเล็กน้อยอย่างร้อนตัว
"พ่อนายทำงานอะไรเหรอ?"แต่แล้วก็ตัดสินใจถามออกไป
"เป็นเจ้าของบริษัท Hyena ที่เจ๊งไปแล้วน่ะ"

ทันทีที่ได้ยินชื่อนั้นเขารู้สึกใจหายวาบ ราวกับทุกอย่างมันเป็นสีขาวโพลน รู้สึกเหมือนมีใครเอาอะไรมาถ่วงตัวเขาไม่ให้ขยับเขยื้อนไปไหน เขานิ่ง...อึ้ง...ที่ได้ยินชื่อนั้น......มันเป็นชื่อที่คุ้นหูดีเมื่อปีที่แล้ว....และเขายังคงจำได้

"เอ้า ไม่เชื่อเหรอ นิ่งเชียว หน้าอย่างฉันไม่น่าเชื่อสินะ ว่ามีพ่อเคยเป็นประธานบริษัทใหญ่โตน่ะ ฮะฮะ"รุกิหัวเราะขึ้นมา แต่มันกลับทำให้เขารู้สึกจมลงอย่างบอกไม่ถูก เขากลืนน้ำลายลงอย่างฝืดคอ

ไม่ได้สำนึกผิดหรือเสียใจอะไร...แต่ไม่เข้าใจโชคชะตา ทำไมต้องให้เขามาเจอกับรุกิ แล้วทำไมต้องให้รุกิได้มารู้จักกับคนอย่างเขา...มันไม่ยุติธรรมกับรุกิเลย...

นั่นน่ะเหรอ เหตุผลที่เขาเข้ามาเกี่ยวข้องกับชีวิตของเจ้า รุกิ คนนี้

เหตุผลนั้นคือ เขาเป็นคน ฆ่า พ่อของรุกิ เมื่อปีก่อน......

เขารู้สึกในหัวมันว่างเปล่า ขณะขับรถกลับบ้าน อยากจะคิดถึงไคให้มันชุ่มชื่นหัวใจซักเล็กน้อย แต่คำพูดไม่ประสีประสาของรุกิก็กลับมาวนเวียนอยู่ในหัวสมองเขาไม่เว้นแต่ละวินาที....

To be continue...

Comments

© Masoul's BLOG. All Rights Reserved. Designed by HTML Codex