Cassis บทเพลงแห่งโชคชะตา -1-

Image

Cassis บทเพลงแห่งโชคชะตา -1-

2017-09-26 23:59:32

article-fic

ปัง!

ปัง!!! ปัง!!! ปัง!!! ปัง!!! ปัง!!!

เสียงปืนที่กระหน่ำรัวนั้นมาจากการซ้อมยิงปืนของเขา หลังจากเลิกงาน นั่นไม่ได้เอาไปแข่งยิงปืนระดับประเทศที่ไหน แต่เอามาใช้ในงานพิเศษของเขา "งานพิเศษ" ที่เขาเรียกมันขึ้นมานั้น ก็เพียงแค่กลบเกลื่อนความน่ากลัวของศัพท์ที่เขาไม่กล้าใช้ ทั้งที่ตัวเขาเองนั่นแหละ น่ากลัวเสียยิ่งกว่าใครๆ

 

"บริษัท Hyena นี่...ชักจะกวนส้นเท้าฉันขึ้นทุกวันๆ"เสียงของหัวหน้าเขาพูดขึ้น ก่อนที่เขาจะเดินเข้าไปหาที่โต๊ะ เมื่อหัวหน้าเขาวางรูปถ่ายของใครคนหนึ่งอย่างไม่ใยดีลงบนโต๊ะ

"ครับ"เขารับคำอย่างรู้หน้าที่

 

ปัง!

 

.....หนึ่งปีต่อมา. ....

 

.... .. ...ashita anatano kimochi ga hanaretemo. . ..Kitto .. . ...

 

เสียงร้องเพลงที่แว่วเข้าหู ทำเอาเขายืนนิ่ง ตั้งใจฟัง ราวกับไม่เคยได้ยินเสียงใครเพราะเท่านี้มาก่อน มันสามารถสะกดให้เขา ยืนฟังอยู่อย่างนั้นแม้ว่าจะไม่เห็นหน้าคนร้องเพราะเขาหันหลังให้กับเวที อีกทั้งยังได้แต่ยืนหลบอยู่หลังฉากที่อยู่ด้านหลังสุดของห้องโถงใหญ่ที่ใช้เป็นงานราตรีของคืนนี้

 

แต่แล้ว เขาก็นึกขึ้นได้ว่าเขามีบางอย่างต้องทำ เมื่อสติเขากลับคืนมาในท่อนที่มีแต่เสียงดนตรี เขายกข้อมือขึ้นมาดูเวลา แล้วหันไปทางห้องโถงที่มีผู้คนต่างเฮฮาปาร์ตี้ราตรีนี้อีกครั้ง ก่อนจะหายไปจากหลังฉากนั้น

 

แม้แต่ตัวชายหนุ่มนักร้องที่ยืนอยู่บนเวทีก็ยังแอบสงสัยว่า ชายผู้ที่ยืนอยู่ด้านหลังสุดนั้น หายไปไหนเสียแล้ว...

 

.. ...Tsuraikotosae wasurerukurai Anata wo omotteiru Aenaiyoru wo kazoerutabini . .... ...

 

แล้วเสียงร้องนั้นก็ดังขึ้นอีกครั้ง ก่อนที่อะไรบางอย่างจะเกิดขึ้นอย่างกระทันหัน!!

 

พรึ่บ!

 

อยู่ๆความมืดก็เข้ามาแทนที่ห้องโถงนี้ มันมืดสนิทจนไม่สามารถมองเห็นอะไรได้ ผู้คนต่างแตกตื่น บ้างก็กรีดร้อง บ้างก็คุยกันจ๊อกแจ๊กว่าเกิดอะไรขึ้น งานราตรีใหญ่โต หรูหราไฮโซแบบนี้ ทำไมถึงไฟดับได้นะ ไฟสำรองไม่มีเลยรึไงกันนะ แต่แล้ว ก็มีเสียงบางอย่างเกิดขึ้นจนทำให้ทุกคนผวา

 

ปัง!

 

ไม่นาน...ความสว่างก็กลับคืนมาอีกครั้ง พร้อมกับเสียงกรีดร้องของผู้คนในงาน...

 

แล้วงานนั้นต้องถูกเลิกไปโดยปริยาย เมื่อมีคนในงานถูกฆาตรกรรมด้วยปืนระหว่างไฟดับ

 

เขาขับรถกลับบ้าน ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น นี่ไม่ใช่ครั้งแรก และแน่นอนว่าไม่ใช่ครั้งสุดท้าย เส้นทางที่เขาใช้กลับบ้านในแต่ละวันไม่เคยจะเหมือนกัน วันนี้เขาเลือกที่จะใช้เส้นทางที่ค่อนข้างเปลี่ยว เพื่อหลบผู้คน เพราะต่อให้เจออะไรที่เลวร้าย ก็ไม่มีอะไรที่น่ากลัวไปกว่าตัวเขาเองอีกแล้ว

 

นักร้องหนุ่มยังคงขวัญผวา หลังจากที่ถูกปล่อยตัวออกมาจากงานแล้ว ทั้งที่อุตส่าห์มีคนมาจ้างให้ไปร้องเพลงในงานใหญ่โต แต่กลับมาเจอเรื่องแบบนี้ซะได้ ทำให้เขาต้องชวดเงินค่าจ้าง ตอนนี้เริ่มจะไม่มีติดตัวซักเยนแล้วซะด้วยสิ แต่แล้ว ในขณะที่กำลังวิตกกังวลและเครียดอยู่นั้น ก็มีคนกลุ่มหนึ่งเดินตรงมายังชายหนุ่มนักร้อง

"เฮ้ย เก๋านี่หว่า เดินมาทางนี้คนเดียว"ชายหัวโจกคนหนึ่งพูดขึ้น

"พวกนายเป็นใคร"ชายหนุ่มเริ่มหวั่นวิตก ว่าไปแล้วเดินมาทางนี้ได้ยังไงกันนะ ...คงจะเหม่อลอย

"เป็นคนคุมถิ่น...หลงมาแล้ว ต้องทำตามธรรมเนียมนะจ๊ะ พ่อหนุ่มน้อย"เจ้าหัวโจกยังคงว่าต่อ พลางเดินเข้าใกล้ชายหนุ่มที่ค่อยๆเดินถอยหลัง

"ทำอะไร?"

"มีสองทาง จะเจ็บตัวจนปางตาย หรือจะจ่ายมาดีๆ 50,000 เยน"

"ฉันไม่มีหรอก"

"ไม่มีจ่าย ก็แสดงว่าจะเจ็บตัวจนปางตาย โอเค..เฮ้ย ใครจะอาสา ตัวแค่นี้คงไม่ต้องรุมหรอก"เจ้าหัวโจกทำทีล้วงกระเป๋าอย่างสบายใจเฉิบ ชายหนุ่มเริ่มขาสั่น คนตั้งห้าหกคน เขาจะหนีไปได้ยังไงนะ ถ้าหันหลังแล้ววิ่งหนีไป จะทันมั้ยนะ แต่แล้วก็มีหัวโจกคนนึงเดินเข้ามาทางชายหนุ่มพร้อมกับบีบมือไปพลาง ชายหนุ่มเดินถอยหลัง ทันใดก็ตัดสินใจหันหลังแล้วกำลังจะวิ่งหนี

"จะหนีไปไหน ไม่ปล่อยไปหรอกน่า"ปรากฏว่า ด้านหลังของชายหนุ่มก็มีคนอีกห้าหกคน ยืนร้อมลอบอยู่

ชายหนุ่มทั้งกลัวและผวา ใจสั่นจนไม่รู้จะทำยังไง เงินที่ตั้งใจจะหามาวันนี้ก็ไม่ได้ซักเยน เพราะเกิดเรื่องเสียก่อน อีกทั้งเงินติดตัวก็แทบไม่มีเลย จะทำยังไงก็มีแต่ตายกับตายเท่านั้นสินะ

 

ผวัะ!

 

แล้วชายหนุ่มก็เซจากแรงหมัดของหัวโจกคนนึง รู้สึกมึนจนเกือบจะไม่สามารถยืนทรงตัวได้ ก่อนจะโดนเข้าไปอีกหมัด จนเลือดออกปาก

"ปล่อยฉันไปเถอะ..."ชายหนุ่มพยายามอ้อนวอนขอ แต่เหมือนจะไร้ประโยชน์เพราะดันถูกไอ้ที่เหลือจับตัวแล้วรวบแขนไว้ด้านหลัง

"ที่นี่น่ะ นานทีจะมีเหยื่อหลงเข้ามา ขอให้ได้สนุกก่อนซี่"หัวโจกยิ้มเยาะ

 

เขาที่เห็นผู้คนยืนร้อมลอบทำอะไรบางอย่างอยู่นั้น แทบไม่ได้สนใจ ก่อนจะขับรถผ่านไปอย่างเฉยเมย แต่เมื่อสายตาพลันเหลือบไปเห็นตรงกระจกหน้ารถว่า มีคนถูกทำร้าย เขากลับหยุดรถเสียอย่างนั้น

 

"พวกแกทำอะไรน่ะ!"เขาเผลอตะโกนออกไป ขณะที่เดินลงมาจากรถแล้ว แต่ก็ลืมตัวไปว่าพวกมันมีเยอะกว่ามาก

"อ้าว มีเหยื่อหลงมาอีกแล้ว"

"คุณหนีไป..."ชายหนุ่มตะโกนมาบอกเขา ...อะไรกัน ตัวนายกำลังแย่แท้ๆ...เขาคิดอย่างนึกสมเพช

 

ผวัะ!

 

"หุบปากได้แล้ว! ตัวเองจะตายอยู่รอมร่อ"แต่ชายหนุ่มก็โดนเข้าไปอีกหมัด

"เฮ้ย!"เขารู้สึกเดือดขึ้นมา

"แกจ่ายมา 50,000 แล้วพวกฉันจะปล่อยแกไป"หัวโจกที่ว่างอยู่เอ่ยกับเขา เขาทำท่าหยิบกระเป๋าตังค์ขึ้นมาก่อนจะค่อยๆล้วงเข้าไป

"เออ พูดง่ายๆอย่างงี้ดิ จะได้ไม่ต้องเจ็บตัว"หัวโจกเดินเข้าไปใกล้เขาเพื่อจะรับเงิน ทันใดที่ยื่นมือไปทางเขา ก็ถูกเขารวบมือแล้วหักข้อมือ ก่อนจะเตะสอยเข้าไปที่หน้า

"เฮ้ย!"หัวโจกที่เหลือพากันกรูเข้ามาช่วย บางส่วนยังคงจับตัวชายหนุ่มคนนั้นไว้อยู่

 

หัวโจกค่อยๆทยอยเข้าไปจัดการเขาทีละคน แต่ก็แพ้ทาง เขาหลบได้ทุกหมัดและลูกเตะแล้วยังสวนเข้าไปได้อีก จนพวกหัวโจกต้องเข้ามารุมทีละสามสี่คน แต่เขาก็สามารถหลบและสวนกลับไปได้อีก จนไอ้พวกที่จับตัวชายหนุ่มต้องปล่อยตัวแล้วออกมาช่วย แต่แค่นี้ก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับเขา เขายังพอมีเวลาหันไปบอกชายหนุ่มว่า ให้ "หนีไป" ชายหนุ่มพยักหน้าแล้ววิ่งหนีไปทันที

 

"เฮ้อ...ไม่น่ากลับทางนั้นเลยเรา"เขาบ่นกับตัวเอง หลังจากจัดการกับพวกหัวโจกเสร็จเรียบร้อยแล้ว

"คุณ..."ชายหนุ่มที่ยืนรออยู่ เรียกเขาไว้

"อ้าว"เขาว่าอย่างตกใจ ทั้งที่บอกให้หนีไป แต่กลับมายืนซุ่มอยู่ตรงหลังกล่องใกล้ๆกับที่เกิดเหตุ

"เอ่อ...ขอ...ขอบคุณมากเลยนะครับ"ชายหนุ่มว่าอย่างเกร็งๆ

"ช่างมันเถอะ"เขาว่าอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะเดินกลับไปยังรถที่จอดอยู่ห่างๆ

"เอ่อ เดี๋ยวครับ ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ผมก็ต้องขอบคุณคุณ"ชายหนุ่มว่าอีก ถึงเขาจะหยุดฟังแต่ก็ไม่ได้หันมา

"อืม"เขาทำแค่รับคำเบาๆ ทำทีไม่ใส่ใจ แล้วเดินไปอีกก้าว

"เอ่อ เดี๋ยวครับ"...อะไรอีกล่ะเนี่ย...เขาคิดอย่างหน่ายๆ

"คุณชื่ออะไรเหรอครับ"

"เราจะไม่เจอกันอีกหรอก ไม่ต้องรู้หรอก"เขาว่า อันที่จริงเขาไม่อยากจะต้องรู้จักใคร ก่อนจะเดินไปขึ้นรถจริงๆ ตั้งใจว่าจะไม่หยุดเดินแล้วถ้าชายคนนั้นเรียกอีก

"เอ่อ...แต่...เอ้อ...ผมชื่อรุกินะครับ"แล้วชายหนุ่มก็ตะโกนบอกออกไป ไม่รู้ว่าเขาได้ยินหรือเปล่า เพราะเขาได้ปิดประตูรถไปพอดี

 

เขาไม่ควรจะไปทำความรู้จักกับใครอีก ในชีวิตนี้ เขาตั้งใจว่าคงจะไม่เจอชายคนนี้อีก ก็แค่คนๆนึงที่ผ่านเข้ามา เดี๋ยวก็จะผ่านไป มีไม่น้อยที่เขาเองก็เคยผ่านไปในชีวิตใครบางคน แต่สุดท้ายเขาก็จะจากมาอย่างไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆกันอีก ชีวิตของเขามันไม่เหมาะที่จะรู้จักหรือผูกพันกับใคร ให้เขาเป็นแบบนี้นี่แหละดีแล้ว ให้เขาเป็นคนที่ไม่มีใครเลยในชีวิต แม้แต่ญาติ พี่น้อง หรือคนรู้จัก นอกจาก....

 

"เรย์ตะ กลับมาแล้วววเหรออออ~~"เสียงหวานแจ้ว ต้อนรับเขาจากหน้าบ้านเสียก่อนที่เขาจะทันได้พูดว่ากลับมาแล้ว

"ฉันเหนื่อยจัง อยากนอนพัก"เขาเดินเลี่ยงเข้าบ้านไป

"เรย์ตะ กินข้าวก่อนนะ"เจ้าของเสียงหวานเดินตามเข้าไป

"ฉันไม่หิว ขอโทษนะไค กับข้าวอุ่นให้ฉันพรุ่งนี้แล้วกันนะ"เขาหันมายิ้มน้อยๆ ลูบศีรษะอย่างเอ็นดู ก่อนจะเดินขึ้นห้องไป

"เรย์ตะ..."

ถึงเขาจะบอกไปว่าอยากนอนพัก แต่กลับรู้สึกหลับไม่ลงเสียอย่างนั้น มิใช่เป็นเพราะคิดถึงเจ้ารุกิที่เขาไปช่วยไว้ แต่กำลังคิดถึงเสียงของนักร้องที่เขาได้ยินโดยบังเอิญนั่นต่างหาก มันมีมนตร์สะกดที่ทำให้เขาลืมไม่ลง บางทีเขาอาจจะอยากเห็นหน้าของเจ้าของเสียงนั้นก็ได้ แต่ว่ามันเป็นไปไม่ได้หรอก...นั่นก็แค่เรื่องๆหนึ่งที่มันผ่านเข้ามาในชีวิตเขา เดี๋ยวเขาก็ลืมไปเอง...

To be continue...

Comments

© Masoul's BLOG. All Rights Reserved. Designed by HTML Codex